กยศ.อุ้มลูกหนี้ฝ่าพิษโควิด-19 ลดอัตราดอกเบี้ยปรับเหลือ 0.5% จาก 7.5% ต่อปี

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

กยศ.อุ้มลูกหนี้ฝ่าพิษโควิด-19 ลดอัตราดอกเบี้ยปรับเหลือ 0.5% จาก 7.5% ต่อปี

Date Time: 2 เม.ย. 2563 08:01 น.

Summary

  • กยศ.โดดซับน้ำตาช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างชำระหนี้ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี ให้นายจ้างลดจำนวนหักเงินเดือนของผู้กู้เหลือรายละ 10 บาทต่อคนต่อเดือน

Latest

มาอีก 1 "ร้านสะดวกซื้อ" สไตล์ใหม่ ของกลุ่มซีพี ดัน Life Xpress ลงสนามค้าปลีกไทย นำร่อง จ.เชียงใหม่

กยศ.โดดซับน้ำตาช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างชำระหนี้ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี ให้นายจ้างลดจำนวนหักเงินเดือนของผู้กู้เหลือรายละ 10 บาทต่อคนต่อเดือน พร้อมพักชำระหนี้ 2 ปีสำหรับผู้ถือบัตรคนจน ขณะที่ผู้กู้ยืมที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 8,008 บาทต่อเดือน ผ่อนผันหนี้ได้ครั้งละ 1 ปี

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน ในการดำรงชีพของผู้กู้ยืม กยศ. ระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กองทุนจึงได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างชำระหนี้ ดังนี้

1.กรณีที่ผู้กู้ยืมยังไม่ถูกดำเนินคดี และไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ก็จะปรับลดเบี้ยปรับให้กับผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระเงินกู้ยืมเป็นการชั่วคราว จาก 7.5% ต่อปี เป็น 0.5% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-31 ธ.ค.นี้

2.ให้นายจ้างลดจำนวนหักเงินเดือนของผู้กู้เหลือ 10 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับกลุ่มผู้กู้ยืมในหน่วยงานเอกชน จากเดิมหักตามเงินงวดที่ผู้กู้ต้องจ่าย 12 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย.นี้

3.ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมทุกกลุ่มที่ค้างชำระหนี้ และปิดบัญชีในครั้งเดียว กรณีผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ติดต่อชำระหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หากผู้กู้ยืมถูกดำเนินคดีสามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ที่เว็บไซต์ กยศ. โดยต้องชำระค่าทนายความและค่าธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนชำระหนี้ปิดบัญชี ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้

4.ลดเบี้ยปรับ 75% เฉพาะผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) โดยติดต่อชำระหนี้ที่กรุงไทยหรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้

5.พักชำระหนี้ ให้แก่ผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) 2 ปี โดยผู้กู้ยืมที่มีสถานะยังไม่ถูกดำเนินคดี ได้รับการผ่อนผันการชำระหนี้ กรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายปี ได้รับสิทธิผ่อนผันการชำระหนี้งวดปีนี้เป็นเวลา 2 ปี โดยผู้กู้ยืมจะกลับมาชำระหนี้งวดปีนี้ภายในวันที่ 5 ก.ค.2565

สำหรับกรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายเดือนให้ผ่อนผันการชำระหนี้ 24 เดือน นับตั้งแต่เดือนถัดไปที่กองทุนอนุมัติ โดยในระหว่างพักชำระหนี้ กองทุนจะไม่ถือว่าผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ และจะหยุดคิดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ หรือค่าธรรมเนียมผิดนัดชำระหนี้ทั้งงวดที่ค้างชำระก่อนหน้า และงวดที่อยู่ระหว่างผ่อนผันการชำระหนี้ จนกว่าระยะเวลาพักชำระหนี้จะสิ้นสุด สามารถลงทะเบียนยื่นคำขอรับสิทธิได้ทางเว็บไซต์ กยศ.จนถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้

6.ผ่อนผันการชำระหนี้สำหรับผู้กู้ยืมที่ไม่เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ สามารถยื่นคำขอผ่อนผัน ก่อนครบกำหนดชำระหนี้ ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ แบ่งเป็น 2 กรณี คือ ผู้กู้ยืมที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 8,008 บาทต่อเดือน ขอผ่อนผันได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่ได้รับอนุมัติฯลฯ ส่วนกรณีผู้กู้ยืมที่มีรายได้ถดถอย ขอผ่อนผันให้ขยายเวลาการชำระหนี้ได้ตั้งแต่ 1.5-2.5 เท่าของระยะเวลาที่เหลืออยู่ตามสัญญากู้ยืมเดิม ขึ้นอยู่กับมูลหนี้คงเหลือ ในการชำระเงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี และผู้กู้ยืมจะต้องทำบันทึกข้อตกลงกับกองทุน เพื่อนำยอดหนี้คงเหลือมาคำนวณใหม่และเฉลี่ยให้ชำระในแต่ละเดือนเท่าๆกันภายในระยะเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน

7.งดการขายทอดตลาด สำหรับผู้กู้ยืม หรือผู้ค้ำประกันที่กองทุนได้ยึดทรัพย์ไว้ทุกราย และขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขายทอดตลาด กองทุนจะยื่นคำร้องของดการขายทอดตลาดทุกรายไป จนถึงสิ้นปีนี้ โดยจะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกันที่ถูกยึดทรัพย์ รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม เป็นต้น

8.ชะลอการบังคับคดี สำหรับผู้กู้ยืม หรือผู้ค้ำประกันทุกคดี โดยกองทุนจะชะลอการบังคับคดีไว้ ยกเว้นกรณีที่คดีใกล้ขาดอายุความ กองทุนจำเป็นต้องดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมาย แต่จะงดการขายทอดตลาดไว้.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ