นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า กสทช.ได้ทำหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาโครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
เนื่องจากทีโอทีผิดสัญญา ส่งมอบงานล่าช้ากว่าสัญญาตั้งแต่ 27 ก.ย.2561 และทีโอทีได้ขอผ่อนผันที่จะส่งมอบงานในวันที่ 15 ก.ย.2562 แต่สุดท้ายไม่สามารถส่งมอบงานได้ ทำให้ กสทช.จำเป็นต้องยกเลิกสัญญาดังกล่าวเพื่อเปิดประมูลใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาราว 4-5 เดือน ก็จะได้ผู้ดำเนินการรายใหม่ และคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ในปี 2563 และจากนี้ไป กสทช. และทีโอทีจะทำงานร่วมกัน เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ที่สามารถใช้ได้ตามทีโออาร์ เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และค่าปรับกรณีที่ทีโอทีส่งมอบงานล่าช้าด้วย
ทั้งนี้ กสทช.จำเป็นต้องยกเลิกสัญญาโครงการเน็ตชายขอบกับทีโอที นอกจากล่าช้ากว่าที่สัญญากำหนดแล้ว ทีโอทีไม่ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) อาทิ สายไฟเบอร์ออฟติก ตามทีโออาร์กำหนดให้จัดซื้อจากผู้ผลิตในประเทศ แต่ทีโอทีจัดซื้อจากต่างประเทศ
ขณะที่ศูนย์ให้บริการอินเตอร์เน็ต หรือศูนย์ยูโซเน็ต ทีโอทีก็ไม่ได้ดำเนินการตามแบบที่ กสทช.กำหนดแต่อย่างใด อีกทั้งความล่าช้าของทีโอทียังได้ส่งผลกระทบถึงการเชื่อมอินเตอร์เน็ตไปยังครัวเรือนของประชาชน ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับ กสทช. ราว 300,000 รายด้วย เนื่องจาก กสทช.ไม่สามารถเปิดให้บริการเฉพาะพื้นที่ได้ เพราะโครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบ มีหมู่บ้านที่ กสทช.ต้องติดตั้งอินเตอร์เน็ตทั้งหมด 3,920 หมู่บ้าน คิดค่าบริการเชื่อมต่อไปยังครัวเรือนเดือนละ 200 เป็นเวลา 3 ปี จึงจำเป็นต้องเปิดพร้อมกันเท่านั้น.