"ศักดิ์สยาม" ลุยมาตรการเร่งด่วนลดฝุ่น PM2.5 สั่งข้าราชการคมนาคม เลี่ยงใช้รถยนต์ส่วนตัว ย้ำก่อสร้างทุกโครงการต้องมีสเปรย์น้ำ ตรวจเข้มรถโดยสารสาธารณะต้องไร้ควันดำ ชี้ไม่ผ่าน ห้ามวิ่ง
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงมาตรการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมดำเนินมาตรการลดฝุ่นละอองเป็นการเร่งด่วนใน 3 เรื่อง คือ รถ งานก่อสร้าง และการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โดยในส่วนของรถนั้นให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตรวจสอบสภาพและควันดำของรถโดยสารสาธารณะอย่างเข้มงวดมากขึ้นจากเดิมที่ดำเนินการอยู่แล้ว หากพบว่ารถคันใดไม่ผ่านหลักเกณฑ์การตรวจสภาพ ต้องสั่งห้ามวิ่งให้บริการเด็ดขาดจนกว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขให้ผ่านมาตรฐานแล้วจึงนำกลับมาให้บริการได้
ทั้งนี้ ได้ให้หน่วยงานก่อสร้างเจ้าของโครงการ เช่น กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ประสานงานกับผู้รับเหมาให้จัดสเปรย์น้ำในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง ส่วนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะนั้นมีนโยบายให้ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่จำเป็นต้องเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ามาในกรุงเทพมหานคร ให้หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัว ยกเว้นมีความจำเป็นจริงๆ และให้หันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะแทน เช่น รถไฟ รถทัวร์ เป็นต้น
ส่วนมาตรการระยะกลางและระยะยาวนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ทั้ง ล้อ-ราง-เรือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนหันมาใช้บริการมากขึ้น นอกจากนี้ ยังจะหาแนวทางนำมาตรการด้านภาษีมาใช้กับรถที่ก่อมลพิษ อย่างรถควันดำไม่ผ่านมาตรฐาน ต้องเสียภาษีมากกว่ารถที่ไม่ก่อมลพิษ ขณะเดียวกันจะลดภาษี หรือลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนให้กับรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมว่า มาตรการแก้ไขปัญหามลภาวะฝุ่นละออง PM2.5 ของกระทรวงคมนาคมนั้น ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะทำการตรวจสอบสภาพรถ และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะตรวจวัดควันดำรถบรรทุกและรถโดยสาร บนถนนสายหลักและสายรองใน กทม.และปริมณฑล เดือนละไม่น้อยกว่า 16 วัน พร้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บก.จร. กทม. กรมควบคุมมลพิษ และผู้ประกอบการ ตรวจวัดควันดำรถบรรทุกและรถโดยสาร พร้อมอาจมีการปรับเวลาเดินรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปเข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรและการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในปัจจุบัน โดยจะสามารถเดินรถได้หลังเวลา 24.00 - 04.00 น.
ทั้งนี้ จะต้องมีการสื่อสารกับผู้ประกอบการที่ใช้รถบรรทุก 10 ล้อ และดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ ขบ.จะเพิ่มจุดบริการนอกสถานที่ในเวลาราชการ เพื่อให้บริการตรวจสภาพและดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถ ณ สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑล สถานีขนส่งสินค้าร่มเกล้า และสถานีขนส่งสินค้าคลองหลวง
ส่วนกรมทางหลวง (ทล.) มีแผนติดตั้งระบบปล่อยฝอยละอองน้ำความดันสูง บริเวณด่านเก็บเงินบนทางหลวงพิเศษ อีก 7 แห่ง ดังนี้ บริเวณหลังคาคลุมตู้เก็บค่าผ่านทาง (Canopy) ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบางปะกง, หนองขาม 1, หนองขาม 3, ทับช้าง 1 (ช่องทางที่ 1-7), ทับช้าง 2 (ช่องทางที่ 1-7), โป่ง 3 และพัทยา (ขาออก) โดยคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จภายในต้นเดือน ต.ค. 62
สำหรับ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) นั้น กำหนดมาตรการลดฝุ่น โดยหากพบว่าการก่อสร้างเกิดฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นจนสังเกตได้ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 วัน ให้พิจารณาหยุดกิจกรรมก่อสร้าง เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไข ทั้งนี้ขอให้หน่วยงานของผู้ว่าจ้างจัดทำบัญชีเครื่องจักร ระบุประเภทรถและหมายเลขทะเบียนของแต่ละโครงการ เพื่อพร้อมในการประสานสำนักงานขนส่งจังหวัดในการจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความสมบูรณ์ของเครื่องจักร เพื่อลดมลภาวะ
นอกจากนี้ ได้มีการประสานงานขอความร่วมมือกับ บก.จร.และตำรวจจราจรในพื้นที่เพื่อกวดขันและเข้มงวดไม่ให้มีการจอดรถบนพื้นผิวถนนที่จราจรแออัด เช่น ถนนราชพฤกษ์ ถนนกัลปพฤกษ์ โดยที่ผ่านมา ทช.ได้มีการประสานงานกับตำรวจจราจรมาโดยตลอดถึงการห้ามจอดรถบริเวณห้ามจอด.