นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา จะร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
จัดพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ในวันที่ 12 ก.ย.62 ณ ลานอเนกประสงค์ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยจะเชิญตัวแทนเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงทูตานุทูตจากประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี อาเซียน มาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย
สำหรับของกลางที่จะนำมาทำลาย ประกอบด้วยสินค้าหลากหลายชนิด เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ แผ่นซีดี/วีซีดี แว่นตา เครื่องสำอาง บุหรี่ เป็นต้น รวมทั้งสิ้น 10.62 ล้านชิ้น มูลค่าความเสียหายรวม 550 ล้านบาท แบ่งเป็นของกลางจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 251,019 ชิ้น ของกลางจากกรมศุลกากรกว่า 9.82 ล้านชิ้น และของกลางจากดีเอสไอ 551,448 ชิ้น
ด้านนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมจะเดินหน้ารณรงค์ให้ผู้บริโภคไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่ใช้ของปลอมซึ่งไม่มีคุณภาพต่อไป เพื่อสร้างจิตสำนึกในการใช้ของแท้ และล่าสุดกรมกำลังจะร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย จัดรณรงค์ต่อต้านการใช้ยาปลอม รวมทั้งจัดสัมมนาเพื่อกระตุ้นให้คนเห็นถึงโทษของยาปลอม ที่ไม่เพียงแต่ทำลายเศรษฐกิจ ยังอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตด้วย
“ที่ผ่านมากรมได้ร่วมทีมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จับกุมยาปลอมมาโดยตลอด โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยว โดยยาที่พบปลอมมากๆ เช่น ยาไวอากร้า มีทั้งปลอมเครื่องหมายการค้า คือการปลอมยี่ห้อของเจ้าดังๆ และปลอมตัวยาที่อาจใช้แป้งมาทำ หรือไม่มีสารออกฤทธิ์ เมื่อซื้อไปใช้ก็ไม่มีประโยชน์ ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับ สูงสุด 400,000 บาท”.