ก.ล.ต.ปรับใหม่รายชื่อ "คริปโท"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ได้ปรับปรุงรายชื่อคริปโทเคอร์เรนซี ที่ใช้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการระดมทุน (ไอซีโอ) ได้ หรือที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถใช้เทียบราคาสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งการประกาศรายชื่อดังกล่าวไม่ใช่การรับรองสถานะให้เป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

โดยรายชื่อคริปโทเคอร์เรนซี ที่ ก.ล.ต.ประกาศนั้น มีวัตถุประสงค์ในการอนุญาตให้เป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่ใช้ลงทุนในโทเคนดิจิทัล ที่ผ่านกระบวนการทำไอซีโอได้ รวมถึงเพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลใช้เปรียบเทียบมูลค่ากับสินทรัพย์ดิจิทัลตัวอื่นๆ ที่จดทะเบียนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (base trading pair) ตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 โดยรายชื่อคริปโทเคอร์เรนซีที่ปรับปรุงใหม่ อาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ

โดยการปรับปรุงรายชื่อในครั้งนี้ ทำให้ในปัจจุบันมีคริปโทเคอร์เรนซี ที่สามารถใช้เพื่อการเป็น base trading pair มีจำนวน 4 ตัว ได้แก่ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Ripple (XRP) และ Stellar (XLM) โดยได้ปรับออกจากรายชื่อ 3 ตัว ได้แก่ Bitcoin Cash (BCH), Ethereum Classic, (ETC) และ Litecoin (LTC) ซึ่งการปรับปรุงดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบใดต่อผู้ลงทุน หรือผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพราะปัจจุบันยังไม่มีการออกและเสนอขายไอซีโอ ตลอดจนศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ประกอบธุรกิจอยู่ในปัจจุบันไม่ได้ใช้ BCH ETC หรือ LTC เป็น base trading pair ขณะที่มีรายงานจาก New Global Digital Report 2019 ว่า ไทยเป็นประเทศที่มี ผู้ถือครองคริปโทเคอร์เรนซีสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยคนไทย 9.9% จากประชากรทั้งหมดเกือบ 70 ล้าน มี bitcoin และ altcoin อยู่ในครอบครอง.