หวั่นผูกขาด-มีอำนาจเหนือตลาด คณะกรรมการแข่งขันการค้า จับตาดีลแอร์เอเชียซื้อนกแอร์

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

หวั่นผูกขาด-มีอำนาจเหนือตลาด คณะกรรมการแข่งขันการค้า จับตาดีลแอร์เอเชียซื้อนกแอร์

Date Time: 1 มี.ค. 2562 08:55 น.

Summary

  • นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้าและโฆษกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า

Latest

ส.อ.ท.ปลื้ม “เอกนัฏ” เข้มคุมสินค้า มอก. จัดระเบียบโรงงานป้องกันภัยซ้ำซากไม่หวั่นเกรงผู้มีอิทธิพล

นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้าและโฆษกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) ได้เฝ้าระวังและจับตาดูกรณีบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินไทยแอร์เอเชีย (AAV) จะซื้อหุ้นของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) (NOK) จากกลุ่มจุฬางกูร
อย่างใกล้ชิด เพราะหากมีการซื้อหุ้นจริง จะถือว่าเป็นการรวมธุรกิจภายใต้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาการเข้าซื้อสินทรัพย์หรือหุ้นเพื่อควบคุมนโยบายการบริหารธุรกิจ การอำนวยการหรือการจัดการ ที่เป็นการรวมธุรกิจ พ.ศ.2561 โดยภายใต้ประกาศนี้มีแนวทางการพิจารณา 2 กรณี คือ กรณีที่ 1 ต้องขออนุญาตก่อนรวมธุรกิจ ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลทั้ง 2 บริษัท มีส่วนแบ่งตลาดสายการบินต้นทุนต่ำในประเทศเป็น 2 ลำดับแรก และยังเป็นการรวมธุรกิจแบบแนวนอนหรือรวมธุรกิจในสินค้าหรือบริการเดียวกัน หากโครงสร้างตลาดหลังรวมทำให้แอร์เอเชียมีส่วนแบ่งตลาดเกิน 50% และมียอดเงินขายตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จะเข้าข่ายการรวมธุรกิจที่มีอำนาจเหนือตลาด ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการ และต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะดำเนินการรวมธุรกิจได้

กรณีที่ 2 การรวมธุรกิจที่ต้องแจ้งผลหลังการรวมธุรกิจแล้วภายใน 7 วัน โดยกรณีนี้จะใช้ยอดเงินขายเป็นเกณฑ์หากผู้ประกอบธุรกิจรายใดที่มียอดเงินขายตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ดำเนินการรวมธุรกิจ ซึ่งการที่แอร์เอเชียเข้าซื้อหุ้นจากกลุ่มจุฬางกูร ในสัดส่วนหุ้นมากกว่า 25% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของนกแอร์ เพื่อควบคุมนโยบายการบริหารธุรกิจหรือการจัดการ แต่ไม่เป็นการผูกขาดหรือมีอำนาจเหนือตลาด จะเข้าข่ายการรวมธุรกิจอันอาจก่อให้เกิดการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ กรณีนี้สามารถแจ้งผลการรวมธุรกิจให้คณะกรรมการฯ ทราบ ภายใน 7 วัน หลังรวมธุรกิจแล้วได้ “คณะกรรมการได้สั่งให้สำนักงานเฝ้าระวัง และจับตาการรวมธุรกิจของ 2 สายการบินอย่างใกล้ชิด หากตรวจพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายแข่งขันการค้าจะลงโทษทันที เพราะหากรวมแล้วทำให้เกิดการผูกขาด หรือมีอำนาจเหนือตลาด ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการฯก่อน ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 0.5% ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ และการรวมธุรกิจที่อาจส่งผลลดการแข่งขัน มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท และปรับรายวันไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ