ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร จากเดิม 400 บาทเป็น 600 บาท ให้กับผู้ประกันตนที่มีบุตรตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2562
โดย สปส.จะจ่ายเงินในส่วนที่ปรับเพิ่มขึ้นให้กับผู้ประกันตนย้อนหลังจำนวน 200 บาท (ก่อนหน้านี้ ได้ไปแล้ว 400 บาท) ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2561 พร้อมกับเงินสงเคราะห์บุตรเดือนธันวาคม 2561 อีก 600 บาท ให้กับผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน หรือคงสภาพความเป็นผู้ประกันตนอยู่ รวมถึงบุตรต้องมีอายุแรกเกิดจนถึงช่วงไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ และยังมีชีวิตอยู่
สปส. เริ่มโอนเงินอัตราใหม่ไปแล้วไม่กี่วันมานี้ (31 ม.ค.2562) แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่หลายราย กลับประสบปัญหา เงินไม่เข้า, ได้ไม่ครบ, ได้ไม่เท่าครอบครัวอื่น เป็นเพราะอะไร ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ทุกอย่างมีคำตอบ มีเหตุและผล!
น.ส.อำพันธ์ ธุววิทย์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ให้คำตอบกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ประกันตนจะได้รับเงินย้อนหลังของปี 2561 เดือนละ 200 บาท รวม 12 เดือน เป็นเงิน 2,400 บาท และบวกเดือนมกราคม 2562 อีก 600 บาท รวมเป็นเงิน 3,000 บาท (เงินย้อนหลัง 2,400 + เดือนล่าสุด 600 = 3,000 บาท)
ส่วนที่ผู้ประกันตนแต่ละคนได้รับเงินสงเคราะห์บุตรไม่เท่ากันนั้น น.ส.อำพันธ์ ให้คำตอบว่า บางคนได้รับเงินสงเคราะห์บุตรไม่ครบ 3,000 บาท หรืออาจจะได้เพียง 1,200-1,400 บาท เนื่องจากคนผู้นั้น ลาออกจากการเป็นผู้ประกันตน จึงทำให้จ่ายเงินสมทบไม่ครบ และทำให้พ้นสภาพผู้ประกันตน
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนลาออกเดือนสิงหาคม และไม่ได้ส่งเงินสมทบต่อ ดังนั้น ผู้ประกันตนจะได้รับเงินย้อนหลังเพียงแค่เดือนสิงหาคมไปจนถึงมกราคม รวม 6 เดือนเท่านั้น ส่วนอีก 6 เดือนที่เหลือจะไม่ได้รับ เพราะพ้นสภาพผู้ประกันตนไปแล้ว
ในอีกกรณีหนึ่งก็คือ ลาออกจากงานไปช่วงหนึ่ง และไม่ได้ส่งเงินสมทบ จากนั้นไม่กี่เดือนถัดมา ก็กลับมาทำงานต่อ จึงเท่ากับว่า ช่วงที่ลาออกไปส่งเงินสมทบขาดช่วง
ส่วนที่ผู้ประกันตนบางคนยังไม่ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเดือนมกราคมนั้น น.ส.อำพันธ์ ให้คำตอบว่า การจ่ายเงินเป็นรายเดือน รวมเดือนมกราคมไปด้วยก็จะเป็น 13 เดือน แต่เงินสงเคราะห์บุตรเดือนมกราคม ยังไม่เข้าบัญชี เนื่องจากต้องตรวจสอบสิทธิผู้ประกันตนก่อน 2 เดือน
ยกตัวอย่างเช่น คุณยื่นขอเงินสงเคราะห์บุตรเดือนมกราคม ทางเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาตรวจสอบสิทธิไปอีก 2 เดือน เงินก็จะเข้าสิ้นเดือนเมษายน ซึ่งใช้แบบแผนนี้มาตั้งแต่ปี 2557 และในแต่ละเดือนจะได้รับเงินไม่ตรงเดือน แต่ในที่สุดแล้ว ผู้ประกันตนจะได้เงินย้อนหลังครบในเดือนมีนาคม 2562
น.ส.อำพันธ์ ตอบข้อซักถามนี้ว่า การตรวจสอบสิทธิที่ใช้เวลานานถึง 2 เดือนนั้น เป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้มานานแล้ว และเป็นวิธีตรวจสอบที่ถูกต้องปลอดภัยที่สุด เนื่องจาก สปส.ต้องตรวจสอบการจ่ายเงินของผู้ประกันตน และสถานประกอบการอีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ทั้งหลายที่ร้อนใจ ยังไม่ได้เงินสงเคราะห์บุตร หากคุณไม่เคยขาดส่งเงินสมทบ อีกไม่นานเกินรอ “เงินเข้าบัญชี” แน่นอน...