ครม.อนุมัติจัดหนัก ทั้งงบช่วยยาง-ปาล์ม-ยาสูบ ลดภาระหนี้เกษตรกรรายย่อยรวมกว่า 28,500 ล้านบาท ด้าน “บิ๊กตู่” อัด รมว.เกษตรฯ กลาง ครม. ฉุนทำโครงการยางไม่สะเด็ดน้ำ ทำ “กฤษฎา” เหวอเบรกตัวเองกลางอากาศไม่เสนอของบกลางทำโครงการถนนยางพารา 1 กิโลเมตร 1 หมู่บ้าน
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการช่วยเหลือและสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางปี 2561-2562 หลังก่อนหน้านี้ ครม. เคยให้ความเห็นชอบในหลักการไปแล้ว และคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ได้ไปจัดทำรายละเอียดกลับมาเสนออีกครั้ง โดยได้ปรับเนื้อที่ให้ความช่วยเหลือ ลงจากเดิม 10,039,672 ไร่ เหลือ 9,448,447 ไร่ แต่จำนวนเกษตรกรเจ้าของสวนยางอยู่เท่าเดิมคือ 999,065 ราย และคนกรีดยาง 304,266 ราย ทำให้วงเงินลดลงเหลือ 17,512 ล้านบาท จากเดิม 18,604 ล้านบาท โดยจะได้รับความช่วยเหลือไร่ละ 1,800 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ เจ้าของสวนยางได้รับ 1,100 บาทต่อไร่ คนกรีดยาง 700 บาท เวลาดำเนินการ 10 เดือน ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2561-ก.ย.2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ใน ครม.ว่า การเสนอโครงการให้คิดมาให้ถี่ถ้วน ไม่ใช่อยากจะขอเงินก็ขอมาแบบเร่งด่วนแล้วต้องมาปรับเปลี่ยนทีหลังให้ทำมาให้รอบคอบ ทำให้นายกฤษฎาไม่กล้าเอ่ยถึงโครงการสร้างถนนที่ใช้ยางพารา หรือโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร ที่นายกฤษฎาจะเสนอขอใช้งบกลาง
นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติ โครงการบริหารจัดการรักษาเสถียรภาพราคายางพาราของสถาบัน โดยสนับสนุนวงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท ให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ที่เป็นแม่ข่ายรวบรวมหรือแปรรูปยางและจำหน่ายไปยังตลาดต่างประเทศหรือให้กับผู้ส่งออก มีเป้าหมาย 100,000 ตัน โดยใช้แหล่งเงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คิดดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้กับ ธ.ก.ส.3.99% ต่อปี รวมวงเงินชดเชย 199.50 ล้านบาท รวมทั้ง จะจัดสรรงบประมาณอุดหนุนจ่ายขาดชดเชยค่าบริหารจัดการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้สถาบันเกษตรกรใช้จ่ายเป็นค่าบริหารจัดการรวบรวมยางพาราในอัตรา 2 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เป็นเงิน 200 ล้านบาท รวมเงินชดเชย 399.50 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 1 ธ.ค.2561 ถึง 28 ก.พ.2563
ขณะเดียวกัน ครม.ยังได้เห็นชอบโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มอัตราไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ หรือไม่เกิน 22,500 บาท วงเงินรวม 3,458 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 10 เดือน ตั้งแต่เดือน ธ.ค.61-ก.ย.62 โดยปัจจุบันมีชาวสวนปาล์มที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ในส่วนปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตแล้วหรือมีอายุเกิน 3 ปี 150,000 ราย พื้นที่ 2.25 ล้านไร่
ครม.ยังเห็นชอบโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบเฉพาะฤดูกาลผลิต ปี 2561/62 โดยจัดเงินเข้าไปช่วยเหลือผู้ปลูกยาสูบ 3 ประเภท คือ เวอร์ยิเนีย เบอร์เลย์ และเตอร์กิช ที่ได้รับโควตาในฤดูกาลผลิต ปี 2561/62 ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) และกรมสรรพสามิต 13,557 ราย โดยรัฐ จะจ่ายเงินช่วยเหลือในอัตรา 70% ของรายได้ที่ขาดหายไป ใช้งบกลาง 159.59 ล้านบาท โดยมีเวลาดำเนินการ 180 วัน หลัง ครม.เห็นชอบ
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.อนุมัติงบประมาณตามโครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย 7,021.96 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เพื่อให้เป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2561 ที่อนุมัติมาตรการลดภาระหนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้เกษตรกรรายย่อยภายใต้โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.สำหรับต้นเงินกู้ที่ไม่เกิน 300,000 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี ระยะเวลาโครงการเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2561 ถึงวันที่ 31 ก.ค.2562 โดยรัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยเงินกู้แทนเกษตรกรลูกค้ำ ธ.ก.ส. ในอัตรา 2.5% ต่อปีรวมเป็นเงินจำนวน 16,305 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้จัดสรรงบประมาณให้โครงการไปแล้ว 9,283 ล้านบาท จึงมีส่วนต่างที่ต้องขออนุมัติเพิ่มเติมอีก 7,021.96 ล้านบาท.