อาการน่าเป็นห่วง

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

อาการน่าเป็นห่วง

Date Time: 4 ก.ย. 2561 05:01 น.

Summary

  • บัลลังก์ละครหลังข่าว ซึ่งถูกผูกขาดโดยช่อง 7 และช่อง 3 ถูกเขย่าหัวสั่นหัวคลอนอีกครั้ง เมื่อละครเมีย 2018 ของช่องวัน One 31 ที่เพิ่งลาจอไป สร้างความนิยมดันเรตติ้งได้เป็นอันดับ 1 แซงแชมป์ละคร

Latest

ถอดบทเรียน “สิงคโปร์”  Financial Hub ไทยพร้อมหรือยัง โอกาสอยู่ตรงไหน?

บัลลังก์ละครหลังข่าว ซึ่งถูกผูกขาดโดยช่อง 7 และช่อง 3 ถูกเขย่าหัวสั่นหัวคลอนอีกครั้ง เมื่อละครเมีย 2018 ของช่องวัน One 31 ที่เพิ่งลาจอไป สร้างความนิยมดันเรตติ้งได้เป็นอันดับ 1 แซงแชมป์ละครหลังข่าวอย่างช่อง 7 และช่อง 3 สำเร็จ

ละครหลังข่าวถือเป็นช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ที่ช่องทีวีเรียกค่าโฆษณาได้สูงที่สุดมาทุกยุคทุกสมัย ในยุคเฟื่องฟูละครหลังข่าวช่อง 7 เคยสร้างสถิติขายนาทีละ 600,000 บาทมาแล้ว ส่วนช่อง 3 อยู่ในระดับ 400,000 บาท โดยแชมป์เรตติ้งตลอดกาลตกเป็นของช่อง 7 ซึ่งมัดใจแฟนละครทั่วประเทศได้แบบอยู่หมัด ส่วนช่อง 3 มีฐานผู้ชมอยู่ในกรุงเทพฯและหัวเมือง

ย้อนกลับไปราว 30 ปีก่อน สมัยที่ทีวียังมีอยู่ 6 ช่อง ละครฮิตหลังข่าวของช่อง 7 ทำเรตติ้งทิ้งคู่แข่ง ได้แค่มองตาปริบๆ ขนาด ประวิทย์ มาลีนนท์ ผู้บริหารช่อง 3 ยังเคยยอมรับว่า แข่งอย่างไรก็ไม่ชนะ

ยกตัวอย่างคู่กรรม ต้นตำรับละครทำถนนโล่ง ในตอนสุดท้ายที่โกโบริตาย ทำสถิติเรตติ้งสูงสุดถึง 40 คืนนั้นกรุงเทพฯกลายเป็นเมืองร้างไปชั่วขณะ เพราะคนในยุคที่ยังไม่มีเทคโนโลยีดูละครย้อนหลัง ต้องรีบกลับบ้านไปเฝ้าหน้าจอไว้อาลัยธงไชย แมคอินไตย์ ผู้รับบทโกโบริ ขณะที่ดาวพระศุกร์ ละครนางเอกผู้ถูกแม่ทอดทิ้ง เวอร์ชันศรราม-สุวนันท์ ฟันเรตติ้งไปถึง 38

ตัดภาพกลับมาที่ พ.ศ.2561 ช่อง 7 ก็ยังคงครองแชมป์เรตติ้งได้ในภาพรวม แม้เรตติ้งละครหลังข่าวในยุคนี้จะถูกลดทอนเหลือแค่ 5 หรือ 6 ก็หรูแล้ว เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น ช่องทีวีเพิ่มจาก 6 เป็น 24 จนเหลือ 22 ช่องในปัจจุบัน รวมทั้งเทคโนโลยีที่ทำให้คนตามชมละครย้อนหลังได้ ไม่ต้องดูสด

แม้จะยังเป็นแชมป์ แต่บัลลังก์ของช่อง 7 ก็กำลังถูกสั่นคลอนต่อเนื่อง และไม่ใช่แค่ถูกแซงจากละครช่องคู่แข่ง เช่นที่บุพเพสันนิวาสจากช่อง 3 เคยทำไว้ หรือล่าสุดเมีย 2018 จากช่องวัน

ละครไพรม์ไทม์ยังเคยถูกท้าทายจากคอนเทนต์วาไรตี้อื่นๆ ยกตัวอย่างความนิยมของรายการ The Mask Singer ซีซัน 1 ทางช่องเวิร์คพอยท์ ที่ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดีชนละครหลังข่าว เคยแซงช่อง 3 และช่อง 7 ด้วยเรตติ้งเกิน 10 มาแล้ว โดยเฉพาะในช่วงวีกท้ายๆ ก่อนเปิดหน้ากากเฉลยผู้ชนะ

เช่นเดียวกับไทยรัฐทีวี ที่จัดผังวางรายการแม่เหล็กอย่างไทยรัฐนิวส์โชว์ชนละครหลังข่าว ก็เคยทำเรตติ้งพุ่งแซงละครในช่วงตามติดชีวิตหมูป่า โดยรายการช่วงภาพ Immersive จำลองการลอดถ้ำหลวงที่ทุลักทุเล ทำเรตติ้งสูงสุด 9.8 และจำนวนคนที่ติดตามข่าวหมูป่าอย่างต่อเนื่อง ยังเคยทำให้เรตติ้งเฉลี่ยทั้งวัน (All 15+) ของไทยรัฐทีวีในวันที่ 9 ก.ค. 2561พุ่งขึ้นมาเป็นช่องอันดับ 1 ที่ 2.371 เป็นครั้งแรก เหนือช่อง 7 และช่อง 3

นับจากนี้ แม้แต่ช่อง 7 ซึ่งอยู่ในสถานะแข็งแกร่งที่สุด ก็เชื่อว่าจะถูกท้าทายอย่างต่อเนื่อง

ในการแถลงข่าวการทุ่มเงิน 500 ล้านบาทซื้อลิขสิทธิ์รายการ The Voice Thailand ของช่องพีพีทีวี 36 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ช่องพีพีทีวี ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารช่อง 3 มากว่า 20 ปี โดยตำแหน่งล่าสุดคือรักษาการกรรมการผู้จัดการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 บอกว่า นับจากนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หากมีรายการที่ดี ทุกคนก็มีโอกาสที่จะแข่ง

“ในอดีตที่แข่งไม่ได้ เพราะทีมงานอยากอยู่แต่กับช่องเดียวหรือ 2 ช่อง แต่วันนี้ช่องเล็กใจใหญ่อย่างพีพีทีวี ก็ได้รายการ The Voice รวมทั้ง The Face Men มาออกอากาศได้ ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียว เพราะเราตั้งใจว่าจะให้เวลาที่ดีที่สุดแก่ 2 รายการนี้ โดยจะให้ออกอากาศในช่วงไพรม์ไทม์ชนกับละครหลังข่าว”

ส่วนช่องวัน ซึ่งกำลังเคลิ้มอยู่กับเรตติ้งเมีย 2018 ก็ตัดสินใจเอาดีทางละครต่อ ด้วยการยกผังช่วงไพรม์ไทม์เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเดิมเป็นเวลาของรายการวาไรตี้ เสียบด้วยละครทั้งหมด ก็ต้องบอกว่าน่ากลัว เพราะความถนัดในการปั่นกระแสโซเชียล ทำให้เรตติ้งเมีย 2018 ทั้งดูสดและออนไลน์ ล้อกันไปแบบฉุดไม่อยู่ แถมได้พันธมิตรแน่นแฟ้นอย่างไลน์ทีวี ช่วยโปรโมตละครผ่านแพลตฟอร์มของไลน์ด้วย

ขณะที่ช่องใหญ่ทั้ง 7 และ 3 การขยับตัวแข่งขันแต่ละครั้ง ดูจะยากลำบากตามประสาองค์กรที่อยู่มานาน ช่อง 7 อาจอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่า เพราะฐานผู้ชมส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัดความจงรักภักดี (Loyalty) ยังสูง แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะผู้ชมต่างจังหวัดเป็นตลาดที่ทุกช่องกำลังมุ่งไปหา

ส่วนช่อง 3 ซึ่งผลประกอบการขาดทุน 3 ไตรมาสติด ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2560 จนถึงปัจจุบัน สะบักสะบอมเพราะฐานผู้ชมส่วนใหญ่ทั้งใน กทม.และหัวเมือง กำลังถูกทะลวงรอบด้าน แถมการเป็นช่องใหญ่ โปรดักชันยักษ์ ทำให้ลดต้นทุนลำบากเพราะจะกลายเป็นลดคุณภาพ แต่การจะเพิ่มรายได้ ยิ่งลำบากกว่าในภาวะการแข่งขันรุนแรง

ไอ้ครั้นจะให้ช่อง 3 ทำละครไป-ออกไป อัด tie-in โฆษณาโกยจนหยดสุดท้าย แบบที่เมีย 2018 ตอนจบทำ ก็คงไม่ใช่สไตล์ จึงสรุปได้ว่าอาการน่าเป็นห่วง.

ศุภิกา ยิ้มละมัย
econ@thairath.co.th 

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ