“สมคิด” สั่งตั้งหน่วยงานพิเศษดูแลนักท่องเที่ยวจีนเป็นการเฉพาะ เพื่อดึงเชื่อมั่นให้กลับมาเที่ยวไทยอีก หลังเหตุเรือล่มทำผวา ชี้จำเป็นมากเพราะจีนเที่ยวไทยปีละกว่า 10 ล้านคน พร้อมเปิดข้อมูลเบื้องต้นรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนสูญไป 37,000 ล้านบาท ด้าน “วีระศักดิ์” ยังมั่นใจกู้ความเชื่อมั่นคืนได้ภายใน ต.ค.นี้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ว่า ได้สั่งการให้นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เร่งหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนไทย เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก ทั้งในเชิงจำนวนและการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยว ประเทศไทยน่าจะมีบริการที่ดีและพิเศษให้ เข้าถึงทุกที่และทุกแห่งที่นักท่องเที่ยวไปเพื่อสร้างความพึงพอใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อมูลข่าวสาร การบริการ รวมถึงความปลอดภัย โดยเริ่มกับนักท่องเที่ยวจีนก่อน และต่อไปค่อยขยายไปนักท่องเที่ยวชาติอื่น “นักท่องเที่ยวจีนมาไทยปีละกว่า 10 ล้านคน อย่างน้อยเดินทางไปถึงจุดไหน ควรมีการสื่อสารข้อมูลข่าวสารไปถึงเขาผ่านแอปพลิเคชัน หรือกรณีที่เกิดปัญหา ต้องทำให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าสามารถแจ้งเหตุตรงไปที่ใครได้ในทันที จึงให้ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯและผู้ว่าการ ททท.ไปหารือกันว่าสามารถทำอะไรเพิ่มได้อีก เพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวจีนรู้สึกว่าเราเต็มที่ในการดูแล ไม่ใช่แค่พูด”
นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องสำคัญที่หารือในการประชุมครั้งนี้ คือ สถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ออกมาดีมากเป็นพิเศษ ตัวเลขนักท่องเที่ยวแข็งแรงดี แต่ครึ่งปีหลัง เหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตอาจทำให้ชะลอตัวเป็นการชั่วคราว แต่อย่างไรก็ตามทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังดูแลสถานการณ์ให้กลับมาปกติ และสิ่งแรกที่ให้ความสำคัญ คือ การจัดระเบียบให้ถูกต้อง โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นตัวหลักในการตรวจสอบเรือ อู่ต่อเรือ ร่วมกับนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า รวมถึงสิ่งผิดกฎหมาย ไม่เพียงแต่เฉพาะที่ภูเก็ตเท่านั้น แต่รวมถึงภูมิภาคอื่นๆด้วย ที่ต้องดูทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้เกิดความปลอดภัย
“จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยในครึ่งปีหลังจะลดลงไหม ตอนนี้เป็นแค่สัญญาณเริ่มต้น สิ่งที่ต้องทำคือ ต้องทำเต็มที่ เยียวยาเต็มที่ ต้องเตรียมให้พร้อมและสร้างความมั่นใจให้เสร็จก่อนการประชุมของคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน วันที่ 23-24 ส.ค.นี้ ที่นายหวาง หย่ง รองนายกรัฐมนตรี จะมาร่วมประชุมในไทย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม ท.ท.ช.มีการรายงานสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนระหว่าง ก.ค.-ธ.ค.61 จะมีจำนวน 5.15 ล้านคน สร้างรายได้ 293,000 ล้านบาท ลดลงจากแนวโน้มเดิมไป 669,000 คนหรือรายได้จะหายไป 37,000 ล้านบาท ขณะที่สถานการณ์ในเดือน ก.ค.61 มีนักท่องเที่ยวจีน 933,665 คน ลดลง 0.45% จากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ 49,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.08% อย่างไรก็ตาม 6 เดือนแรก จีนเข้ามาไทยแล้ว 5.93 ล้านคน แต่ละเดือนเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% มีรายได้สะสม 6 เดือนที่ 319,000 ล้านบาท
ขณะที่นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การสื่อสารเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจากนี้ไปจะลดลงเท่าไหร่ถือเป็นเรื่องอ่อนไหว ขณะนี้ถือว่าทางการไทยกำลังเร่งแก้ปัญหาและเชื่อว่าผลกระทบจะลดลง ตราบใดที่ความรู้สึกของคนจีนผ่อนคลายก็จะค่อยๆดีขึ้น จนถึงปกติ ขณะนี้ได้เร่งทำงานแข่งกับเวลาและเมื่อถึง ต.ค.คงทำให้เป็นไปตามที่ผู้นำจีนคาดหวังทุกอย่างได้ โดยเฉพาะตอนนี้สิ่งที่ผู้นำจีนอยากรู้ คือ สาเหตุของเรือล่มว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่จะลดลงในช่วงนี้คงเป็นเพียงชั่วคราว ซึ่งทางการไทยต้องทำหน้าที่ให้เขามั่นใจ ล่าสุดคณะกรรมการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต (กอ.รมน.ภูเก็ต) ได้ออกประกาศกำหนดแนวทางจัดทำแผนและจัดระเบียบธุรกิจนำเที่ยวเพื่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อจัดระเบียบนักท่องเที่ยวก่อนลงเรือท่องเที่ยว โดยให้ครอบคลุมไปถึงจังหวัดพังงาและกระบี่ด้วย โดยกำหนดท่าเรือที่จะออกเดินเรือชัดเจนเพียง 24 ท่าเท่านั้น และให้ปรับปรุงท่าเทียบเรือที่มีลักษณะไม่เป็นการถาวรให้มีมาตรฐานความปลอดภัย ขณะที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในการนำเที่ยวทางเรือ รับผิดชอบแต่ละด้านต้องตรวจสอบความพร้อมและอุปกรณ์ของเรือให้มีมาตรฐาน และต้องยึดถือขั้นตอนปฏิบัติก่อนนักท่องเที่ยวลงเรือ เช่น บันทึกใบหน้านายเรือ ลูกเรือ คนประจำเรือ และนักท่องเที่ยว ตลอดจนข้อมูลรายชื่อบุคคลที่ลงเรือด้วย เป็นต้น ซึ่งรูปแบบที่ประกาศนี้จะนำไปเทียบเคียงกับพื้นที่อื่น เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงเช่นกัน.