รายได้แรงงานเกษตรระส่ำ สศช.หวั่นบอลโลกเด็กไทยลงสนามเล่นพนัน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

รายได้แรงงานเกษตรระส่ำ สศช.หวั่นบอลโลกเด็กไทยลงสนามเล่นพนัน

Date Time: 1 มิ.ย. 2561 09:45 น.

Summary

  • สศช.เผยภาวะสังคมไตรมาสแรก จ้างงานนอกภาคเกษตรหดตัว 2.8% ทั้งสาขาก่อสร้าง ค้าปลีก-ค้าส่ง ขนส่ง สวนทางภาพรวมเศรษฐกิจที่แนวโน้มขยายตัวดี ขณะที่รายได้แรงงานภาคเกษตรมีแนวโน้มผันผวน...

Latest

ออมสิน ช่วยน้ำท่วมภาคใต้ พักจ่ายเงินต้น-ไม่คิดดอกเบี้ย ลูกหนี้รายย่อย-SMEs  นาน 3 เดือน

สศช.เผยภาวะสังคมไตรมาสแรก จ้างงานนอกภาคเกษตรหดตัว 2.8% ทั้งสาขาก่อสร้าง ค้าปลีก-ค้าส่ง ขนส่ง สวนทางภาพรวมเศรษฐกิจที่แนวโน้มขยายตัวดี ขณะที่รายได้แรงงานภาคเกษตรมีแนวโน้มผันผวนหลังราคาสินค้าเกษตรหดตัวต่อเนื่อง 4 ไตรมาส ย้ำ! ห่วงช่วงฟุตบอลโลก มิ.ย.นี้ เยาวชนจะกลายเป็นนักพนันฟุตบอลหน้าใหม่

นางชุตินาฏ วงศ์สุบรรณ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาส 1 ปี 2561 ว่า การจ้างงานที่ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนอกภาคเกษตรลดลง 2.8% เป็นการหดตัวในสาขาก่อสร้าง 11.8% การค้าปลีก/ ค้าส่ง 2.8% โรงแรมและภัตตาคาร 1.3% และสาขาขนส่ง/เก็บสินค้า 3.2% ซึ่งแม้ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศจะมีแนวโน้มขยายตัวดี แต่ไม่สะท้อนในภาพรวมของการจ้างงานโดยเฉพาะในภาคก่อสร้างและบริการ ที่การจ้างงานยังคงหดตัวต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการประกอบธุรกิจ สำหรับการจ้างงานในภาคเกษตรขยายตัว 6.0% จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการทำการเกษตร

สำหรับอัตราการว่างงานไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.2% คิดเป็นผู้ว่างงาน 470,000 คน โดยการว่างงานของผู้ที่เคยทำงานมาก่อนมีจำนวนลดลงแต่ผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อนว่างงานเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับอัตราการว่างงานของผู้ที่มีอายุไม่เกิน 24 ปี ที่มีอัตราการว่างงานสูงมาก

“รายได้แรงงานภาคเกษตรมีแนวโน้มผันผวน เกิดจากปัญหาราคาสินค้าเกษตร ที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง 4 ไตรมาสในปี 2560 จากลดลง 2.2% ในไตรมาส 2 จากนั้นก็ลดลงต่อเนื่อง 12.9% ในไตรมาส 3 และลดลง 6.0% ไตรมาส 4 ล่าสุดไตรมาสแรกปี 2561 ลดลง 12.3% มาจากราคาสินค้าเกษตรโลกที่ลดลง โดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมัน ประกอบกับผลผลิตสินค้าเกษตรมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศและปริมาณน้ำที่เอื้ออำนวยต่อการผลิต ทำให้ราคาสินค้าลดต่ำลง ซึ่งจะมีผลต่อรายได้ของเกษตรกรและแรงงานในภาคเกษตร”

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรและแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ คือ ให้สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้สินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีและช่วยเหลือค่าเก็บ เกี่ยว ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ คือ ให้สินเชื่อผู้ประกอบการเพื่อซื้อยางแห้งไปใช้ในการแปรรูป โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ 3% ส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานราชการ และการงดกรีดยางในพื้นที่ส่วนราชการทั้งหมดประมาณ 120,000 ไร่ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมระบบแผนที่เกษตร เพื่อการบริหารจัดการ เชิงรุก หรืออะกริแม็ปให้กับเกษตรกร เพื่อใช้ในการตัดสินใจเพาะปลูก รวมถึงการใช้การตลาดนำการผลิตในรูปแบบการรวมกลุ่มแปลงใหญ่ พร้อมเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ โรงงานแปรรูป และสนับสนุนการทำการเกษตรผสมผสาน

นางชุตินาฏกล่าวต่อว่า แนวโน้มหนี้ครัวเรือนยังขยายตัวต่อเนื่อง พบว่าไตรมาส 1 ปีนี้ ยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.1% จากที่ขยายตัว 6.1% ในไตรมาส 4 ปี 2560 ซึ่งสินเชื่อเพื่อซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์ยังคงขยายตัวต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 10.6% ส่วนความสามารถในการชำระหนี้ เมื่อพิจารณาสัดส่วนหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อ สินเชื่อรวมพบว่าเพิ่มขึ้นจาก 2.68% ในไตรมาส 4 ปี 2560 เป็น 2.78% ในไตรมาสแรกปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นในสินเชื่อเกือบทุกประเภท ยกเว้นสินเชื่อรถยนต์

ขณะที่การเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกร แม้ที่ผ่านมาจะมีคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอยู่แล้ว แต่ยังไม่เพียงพอในการแก้ไขอย่างทั่วถึง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงได้ลงพื้นที่สำรวจและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบร่วมกับคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน ทั้งในส่วนกลางและในส่วนพื้นที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับสถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญในช่วงนี้ คือ การเข้าสู่ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกในเดือน มิ.ย. นี้ จึงต้องเร่งรณรงค์ให้เด็กและเยาวชนเข้าใจปัญหาของการเล่นพนันฟุตบอลให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนเข้าสู่วงจรการพนันฟุตบอลมาก ขึ้นเกิดนักพนันฟุตบอลหน้าใหม่จำนวนมาก ซึ่งจาก การสำรวจข้อมูลในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2014 พบว่ากลุ่มตัวอย่างประมาณ 50% ติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขัน ในจำนวนนี้ 9.4% หรือประมาณ 4.6 ล้านคน เล่นพนันฟุตบอล และเป็นนักพนันฟุตบอลหน้าใหม่ประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งขณะนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกัน และช่วยเหลือเยียวยาอย่างเป็นระบบ เพื่อรับมือกับการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบใหม่นี้.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ