ภาพจาก : Google Maps
สหราชอาณาจักร ขายสถานทูตอังกฤษ 420 ล้านปอนด์ หรือราว 1.9 หมื่นล้านบาท ให้กลุ่มเซ็นทรัล เตรียมย้ายที่ทำการใหม่ปี 2562 ไปอาคาร เอไอเอ สาทร...
จากกรณี กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษได้ขายสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ที่กรุงเทพมหานคร ในราคา 420 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท จนถือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้เงินสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ซึ่งเงินเหล่านี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษจะนำไปใช้ปรับปรุงซ่อมแซมสถานทูตในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยหลังจากขายสถานทูตอังกฤษแห่งนี้แล้ว จะย้ายไปที่อาคาร เอไอเอ สาทร ซึ่งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ
มร.บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า อังกฤษเป็นประเทศผู้นำในเวทีโลก และตนเห็นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ทางการทูต จะต้องมีเครื่องมือทุกอย่างที่จำเป็นในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการมีที่ทำงานที่ทันสมัย ปลอดภัย และเหมาะสมต่อการทำงาน ไม่เพียงแต่ในกรุงเทพฯ เท่านั้นแต่ยังรวมถึงในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของสถานทูตอังกฤษในกรุงเทพฯ จะย้ายไปยังที่ทำการใหม่ที่ทันสมัยภายในปี 2562 การเปลี่ยนแปลงนี้ จะยิ่งพัฒนาความสัมพันธ์ด้านการค้าและความสัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศไทยตลอดจนความสัมพันธ์ในภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ด้าน มร.ไซมอน แมคโดนัลด์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สหราชอาณาจักร กล่าวว่า ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ เราจำเป็นต้องตัดสินใจในเรื่องที่ยากลำบาก เพื่อให้แน่ใจว่าสหราชอาณาจักรจะยังคงรักษาบทบาทในเวทีโลกไว้ได้ ในขณะที่ใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอังกฤษอย่างคุ้มค่าที่สุด
การขายที่ดินครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาทบทวนเรื่องที่ดิน ที่กระทรวงการต่างประเทศ สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าของอยู่ทั่วโลก การพิจารณานี้ทางกระทรวงทำมาโดยตลอด เพื่อให้แน่ใจว่า เรายังคงมีฐานการปฏิบัติงานชั้นนำที่เหมาะสม เพื่อใช้ส่งเสริมกิจการของสหราชอาณาจักร และเพื่อให้การใช้จ่ายภาษีของประชาชนอังกฤษเกิดความคุ้มค่าสูงสุด
หลังจากที่ได้สำรวจทางเลือกต่างๆ ในการยกระดับสถานทูตอังกฤษในกรุงเทพฯ และหลังจากการประเมินราคาที่ดินสถานทูตโดยหน่วยงานอิสระ เราจึงตัดสินใจขายที่ดินสถานทูตปัจจุบัน ให้กับกลุ่มบริษัทกิจการร่วมค้าเซ็นทรัลกรุ๊ป และฮ่องกงแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจาร์ดีน แมธทีสัน โดยได้มีการประมูลอย่างเปิดกว้าง
สถานทูตอังกฤษแห่งใหม่จะย้ำความมุ่งมั่นของสหราชอาณาจักรในการสืบสานความสัมพันธ์ระยะยาวกับประเทศไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญในด้านความมั่นคงและความเจริญมั่งคั่ง ทั้งยังเป็นประเทศผู้นำในภูมิภาคอาเซียน.