รถยนต์คันแรกยังป่วนไม่เลิก กรมสรรพสามิตสยบปัญหานัดเคลียร์ สตง.

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

รถยนต์คันแรกยังป่วนไม่เลิก กรมสรรพสามิตสยบปัญหานัดเคลียร์ สตง.

Date Time: 1 ก.พ. 2561 09:55 น.

Summary

  • โครงการรถยนต์คันแรกระทึกไม่เลิก หลังผู้ซื้อผ่อนไฟแนนซ์ครบกำหนดแต่ไม่สามารถโอนได้ หลัง สตง.สั่งระงับอ้างผิดเงื่อนไข เพราะส่งเอกสารหลังจบโครงการไปแล้ว

Latest

จับโรงงานผลิตเหล็กเส้นคุณภาพต่ำ "เอกนัฏ" ส่ง "ชุดตรวจการณ์สุดซอย" รวบนอมินีจีน

โครงการรถยนต์คันแรกระทึกไม่เลิก หลังผู้ซื้อผ่อนไฟแนนซ์ครบกำหนดแต่ไม่สามารถโอนได้ หลัง สตง.สั่งระงับอ้างผิดเงื่อนไข เพราะส่งเอกสารหลังจบโครงการไปแล้ว อธิบดีกรมสรรพสามิต ยันรถทุกคันโอนได้ พร้อมชี้แจง สตง.มีมติ ครม.รับรองปิดรับยื่นเอกสารโครงการปี 2556 ไม่ใช่ปี 2555

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีประชาชนส่วนหนึ่งได้รับความเดือดร้อนจากโครงการรถยนต์คันแรก ซึ่งเป็นโครงการในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมาปรากฏว่ามีเจ้าของรถยนต์ได้เดินทางไปยังกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อขอโอนรถให้กับบุคคลอื่นเนื่องจากครอบครองรถมาครบ 5 ปีตามหลักเกณฑ์ของโครงการแล้ว แต่ปรากฏว่า ขบ.แจ้งว่าไม่สามารถโอนรถได้ เนื่องจากข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์แจ้งว่า รถคันดังกล่าวถูกกรมสรรพสามิตระงับการโอนสิทธิ โดยแนะนำให้ไปสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้นกับกรมสรรพสามิต

ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าของรถสอบถามไปยังกรมสรรพสามิตได้รับคำชี้แจงว่า ขณะนี้ โครงการรถยนต์คันแรกได้ถูกตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า ทำผิดเงื่อนไขการขอรับสิทธิในโครงการรถยนต์คันแรกหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ สตง.กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบการดำเนินงานของกรมสรรพสามิตว่ามีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ โดย สตง.ระบุว่ามีข้อสงสัยเรื่องการดำเนินงานของกรมสรรพสามิต ในการพิจารณาอนุมัติให้สิทธิรถยนต์คันแรกแก่ประชาชนจำนวนกว่า 100,000 ราย เนื่องจากมีประชาชนยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้กรมสรรพสามิตพิจารณาเกินระยะเวลาตามเงื่อนไขการขอใช้สิทธิภายในวันที่ 31 ธ.ค.2555 แต่กรมสรรพสามิตยอมรับเอกสารเพิ่มเติมจากประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ผู้ซื้อรถได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการและรับภาษีคืนจากกรมสรรพสามิต

อย่างไรก็ตาม หาก สตง.สรุปผลว่า ประชาชนผู้ขอใช้สิทธิกว่า 100,000 ราย ทำผิดเงื่อนไข ไม่ควรได้รับสิทธิรถยนต์คันแรก จะทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ถูกตรวจสอบจาก สตง.และต้องนำเงินภาษีที่รับจากกรมสรรพสามิตส่งคืนให้กรมสรรพสามิตทั้งหมด โดยโครงการดังกล่าว รัฐบาลกำหนดคืนภาษีให้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า กรณีที่มีประชาชนระบุว่า มาติดต่อที่ ขบ.เพื่อขอโอนการครอบครองสิทธิรถยนต์ในโครงการรถคันแรก แต่ไม่สามารถโอนได้ โดยเจ้าหน้าที่ ขบ.ระบุว่า ติดปัญหาถูกระงับการโอนจากกรมสรรพสามิต ขณะนี้ ขบ.ได้ประสานไปยังกรมสรรพสามิตเพื่อสอบถามสาเหตุของข้อขัดข้อง เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับมาชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชนที่มาติดต่อที่ ขบ.แล้วเกิดปัญหาได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้องตรงกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดกรมสรรพสามิตได้นัดประชุมเร่งด่วนเพื่อปลดล็อกปัญหาผู้ใช้สิทธิรถคันแรกไม่สามารถโอนรถเป็นของตัวเองได้ ซึ่งคาดว่าจะเคลียร์ปัญหาได้ครบทุกคันภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยสาเหตุที่ติดปัญหาโอนไม่ได้ เนื่องจากผู้ใช้สิทธิยื่นเอกสารการเป็นเจ้าของรถยนต์ให้กรมสรรพสามิตล่าช้ากว่ากำหนดคือสิ้นเดือน ธ.ค.2555 จึงทำให้ สตง.ตั้งข้อสังเกตว่าเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ พร้อมกับให้กรมสรรพสามิตชะลอการโอนสิทธิไว้ก่อนจนกว่าจะพิจารณาได้ชัดเจน ทั้งนี้ เบื้องต้นกรมสรรพสามิต ได้ยืนยันเจ้าของรถทุกรายจะสามารถโอนรถที่ผ่อนชำระหมดเป็นของตนเองได้ เพราะไม่ได้มีความผิดอะไร

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า จำนวนรถยนต์ที่ไม่สามารถโอนจากบริษัทไฟแนนซ์มาเป็นของตนเองได้ เนื่องจากติดเงื่อนไขของโครงการรถยนต์คันแรก ตามที่ ขบ.ระบุนั้น ไม่น่าจะมีตัวเลขสูงถึง 100,000 คัน ล่าสุดได้สั่งให้มีการตรวจสอบแล้ว คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้ จะมีข้อสรุปที่ชัดเจนระหว่างกรมสรรพสามิต และ สตง.

ทั้งนี้ โครงการรถยนต์คันแรกเริ่มต้นโครงการเมื่อเดือน ต.ค.2554-ธ.ค.2555 โดยมีรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการ 1.2 ล้านคัน ซึ่งในจำนวนนี้ ตรวจพบเจ้าของรถยนต์ไม่ทำตามเงื่อนไขมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เช่น ห้ามเปลี่ยนมือ โอนหรือซื้อขายภายในระยะเวลา 5 ปี จำนวนน้อยมาก ส่วนประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เกิดจากปัญหาการจองรถยนต์ในปี 2555 โดยผู้จองรถยนต์จะได้รับรถยนต์ในปี 2556 เนื่องจากปริมาณความต้องการของรถยนต์มีจำนวนมากและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ภายในปี 2555

โดยกรมสรรพสามิตจึงขอมติ ครม.ขยายเวลาในการส่งเอกสารการเป็นเจ้าของรถยนต์ เช่น สัญญาเช่าซื้อและป้ายทะเบียนรถ เป็น ต้น ภายในเดือน ธ.ค.2556 แต่ สตง.ระบุว่า มติ ครม.ที่ขยายเวลาเป็นสิ้นปี 2556 ไม่สามารถนำมาใช้ได้ โดยกรมสรรพสามิตได้ยืนยันและส่งเอกสารเพิ่มเติมไปแล้ว โดยมีรถยนต์ที่ไม่สามารถโอนได้มีจำนวนหลัก 10,000 คันเท่านั้น.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ