นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าเดือน พ.ย.นี้ การบริโภคภาคเอกชนจะกลับมาขยายตัวได้ดี หลังจากเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงจากปัจจัยชั่วคราว ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการช็อปช่วยชาติจะช่วยกระตุ้นการจับจ่าย ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 อาจจะขยายตัวได้ในอัตราสูงถึง 4.6% ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2560 มีโอกาส ขยายตัว 4% สูงกว่าที่ ธปท.คาดไว้ในการประมาณการก่อนหน้าว่าจะโตในอัตรา 3.8%
ขณะที่ในระยะต่อไป บรรยากาศเศรษฐกิจโดยรวมยังดีและเชื่อว่ารัฐบาลจะเร่งอัดฉีดงบประมาณและเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี การส่งออกขยายตัวดีทุกตลาดส่งออกและทุกสินค้าตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อในต่างประเทศ โดยคาดว่าปีนี้การส่งออกมีโอกาสขยายเพิ่มขึ้นเป็น 9-10% ส่วนทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2561 ธปท.ประเมินว่า แรงส่งที่มีต่อเนื่องจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้ามีความมั่นคงมากขึ้น โดยการบริโภคในประเทศและการลงทุนภาคเอกชนจะกลับมาขยายตัวดีขึ้น และผลบวกจากการส่งออกจะกระจายมาถึงภาคอุตสาหกรรม
นายดอนยังกล่าวถึงการแข็งค่าของเงินบาทที่เคลื่อนไหวประมาณ 32.57 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ วานนี้ (30 พ.ย.) ว่า เป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2560 เงินบาทแข็งค่า 9.93% อยู่ในอันดับ 2 รอง จากเงินวอนเกาหลีใต้ที่แข็งค่า 11.77% และใกล้เคียงกับเงินริงกิต มาเลเซีย แข็งค่า 9.74% ส่วนการเคลื่อนไหวของเงินบาทตั้งแต่เดือน มิ.ย.จนถึงปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 4% อยู่ในอันดับ 3 รองจากเงินวอนเกาหลีใต้ และเงินริงกิตมาเลเซีย โดยยอมรับว่าบางช่วงเวลาเงินบาทแข็งค่าค่อนข้างเร็วขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาค ซึ่ง ธปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ หากเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป ธปท.ก็จะเข้าไปดูแลเพื่อให้เวลาผู้ส่งออกได้มีการปรับตัว อย่างไรก็ตาม แม้เงินบาทจะแข็งค่า แต่การส่งออกของไทยยังขยายตัวได้ดี.