ไทยเตรียมเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน 6-11 ก.ย.นี้ พร้อมจับมืออาเซียนหาข้อสรุปการเปิดเสรีการค้าสินค้าภายในกรอบอาร์เซป ก่อนเสนอให้ที่ประชุมผู้นำเห็นชอบเดือน พ.ย.นี้ ลั่นประกาศความสำเร็จ FTA อาเซียน-ฮ่องกง..
วันที่ 4 ก.ย.60 นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 6-11 ก.ย.60 จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (เออีเอ็ม) และการประชุมกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจของประเทศคู่เจรจาอาเซียน ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อพิจารณาและผลักดันการดำเนินการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนให้มีความคืบหน้า โดยอาเซียนจะเร่งรัดการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซป) ระหว่างอาเซียน กับ 6 ประเทศคู่เจรจา คือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ผู้นำกำหนดไว้ภายในปีนี้ ซึ่งประเด็นที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ คือ รายละเอียดการลดภาษีสินค้า
ทางด้าน อาเซียนเสนอให้ลดภาษีสินค้ารวม 92% ของรายการสินค้าทั้งหมด โดย 80% ให้ลดเหลือ 0% ทันทีที่เริ่มเปิดเสรี และอีก 12% ให้ลดเหลือ 0% ภายใน 10 ปี แต่มีหลายประเทศที่เสนอลดภาษีไม่ถึง เพราะบางประเทศในอาร์เซปไม่มีเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นจีนกับอินเดีย หรือจีนกับญี่ปุ่น จึงไม่พร้อมเปิดเสรีทีเดียว และยังชะลอๆ อยู่ ขณะเดียวกัน อินเดีย ที่มีความพร้อมด้านบริการ ก็ต้องการให้อาเซียนเปิดเสรีบริการมากขึ้นกว่าที่ยื่นข้อเสนอไป เพื่อแลกกับการที่อินเดียจะเปิดเสรีสินค้ามากขึ้น แต่อาเซียนก็ยืนยันว่า การเปิดเสรีบริการของอาเซียนจะไม่เปิดเสรีเกินที่อาเซียนเปิดเสรีระหว่างกันภายใต้กรอบเขตการค้าเสรีอาเซียน”
อย่างไรก็ตาม อาเซียนมองว่า อาร์เซปเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และการค้าโลกถึง 29% เท่ากัน การเปิดเสรี จึงควรมีอะไรที่มาก และมาตรฐานสูงตามที่ผู้นำได้คาดหวังไว้ ดังนั้น รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจึงต้องมาคุยกัน และนำผลให้ทีมเจรจาไปคุยในรายละเอียดกันอีกครั้งในเดือนต.ค.นี้ ก่อนที่จะสรุปให้ผู้นำพิจารณาในเดือนพ.ย.นี้
นอกจากนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและฮ่องกง จะร่วมกันประกาศความสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงเอฟทีเออาเซียน-ฮ่องกง และความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน-ฮ่องกง ที่ได้ร่วมกันเจรจามาตั้งแต่เดือน ก.ค.57 และเจรจาเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยอาเซียนสามารถใช้ฮ่องกงกระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดจีน เพราะฮ่องกงมีเอฟทีเอกับจีน ได้ประโยชน์ในการนำเข้าสินค้าจากฮ่องกงด้วยต้นทุนและภาษีที่ลดลง ขณะที่ฮ่องกงสามารถส่งสินค้ามายังอาเซียนได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจจะร่วมรับรองเอกสารสำคัญ เช่น แผนงานด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน แผนงานและตัวชี้วัดการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียน กรอบการคุ้มครองผู้บริโภคระดับสูง แนวทางการจดทะเบียนธุรกิจที่ดี รวมถึงกรอบการดำเนินธุรกิจแบบมีส่วนร่วมของอาเซียนเพื่อผลักดันให้ธุรกิจขนาดเล็กและรายย่อยสามารถร่วมอยู่ในระบบเศรษฐกิจโลก.