พณ. คาดน้ำท่วมอีสานนาเสียหาย ดันราคาข้าวปรับขึ้น ยันไม่กระทบส่งออก

"พาณิชย์" คาดน้ำท่วมอีสานดันราคาข้าวสูงขึ้น ยันปีนี้ไทยส่งออกข้าวได้ถึง 11 ล้านตัน เกินเป้าหมาย 10 ล้านตัน สั่งผู้บริหารระดับสูงกระทรวง ระดมกำลังลงพื้นที่ดูแลเกษตรกร...

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่า อาจทำให้ราคาข้าวในประเทศปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตข้าวได้รับความเสียหาย ซึ่งมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อประเมินตัวเลขความเสียหาย เบื้องต้นคาดว่า ไม่น่าจะกระทบต่อการส่งออกข้าวไทย เพราะความต้องการซื้อข้าวในตลาดโลกที่มีมากขึ้น รวมทั้งแรงกดดันเรื่องสต๊อกข้าวในประเทศที่ลดลง จากการที่รัฐบาลเร่งระบายข้าวในสต๊อกออกไปเกือบหมดแล้ว

"ขณะนี้มีคำสั่งซื้อข้าวไทยแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จากหลายประเทศ ที่เจรจาซื้อข้าวไทย เช่น ศรีลังกา และบังกลาเทศ ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวไทยดีขึ้น และยังส่งผลดีให้การส่งข้าวของไทยในปีนี้น่าจะสูงถึง 11 ล้านตัน มากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้เมื่อต้นปีคาดว่าจะส่งออกได้ 10 ล้านตัน"

อย่างไรก็ตาม จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตทางการเกษตรทยอยออกมาระยะนี้ กระทรวงพาณิชย์จึงได้มอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่ทุกภาคของประเทศ เพื่อพบปะกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการ รวมทั้งประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเร่งหาตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเชื่อมโยงการค้าระหว่างภูมิภาค เพื่อกระจายผลผลิตทางการเกษตรให้ถึงมือผู้บริโภคโดยเร็ว

สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่สำคัญ โดยเฉพาะใน จ.เพชรบูรณ์ น่าน ตาก เชียงราย พะเยา แพร่ โดยผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในฤดูกาลผลิตปี 60 (รุ่นที่ 1) จะออกสู่ตลาดช่วงเดือนส.ค.นี้ ได้มอบหมายให้ นายวิจักร วิเศษน้อย ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เดินทางไปยัง จ.เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก เพื่อพบปะหารือกับกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แล้ว

นอกจากนี้ได้ชี้แจงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และติดตามผลการดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในปีที่ผ่านมา รวมทั้งความต้องการช่วยเหลือจากภาครัฐ เพื่อเป็นข้อมูลนำเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ในฤดูการผลิตปี 60/61 ให้สอดคล้องกับนโยบายสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน.