พาณิชย์ เผยข่าวดี เจรจาเอฟทีเออาเซียน-ฮ่องกง เสร็จสิ้นแล้ว เตรียมประกาศผลความสำเร็จเดือนก.ย.นี้ และลงนามความตกลงในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เดือนพ.ย.นี้ ที่ฟิลิปปินส์ ยันได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-ฮ่องกงว่า ในการประชุมคณะกรรมการเจรจาทางการค้าสำหรับการจัดทำเอฟทีเอเซียน-ฮ่องกง เมื่อวันที่ 30-31 ก.ค.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายได้ข้อสรุปการเจรจาในทุกประเด็นแล้ว โดยจะประกาศความสำเร็จของเอฟทีเอดังกล่าวในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ฮ่องกง ครั้งที่ 2 ในเดือนก.ย.นี้ และมีการลงนามความตกลงร่วมกันในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียน ซัมมิต) ครั้งที่ 31 ในเดือน พ.ย.นี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์
สำหรับเอฟทีเออาเซียน – ฮ่องกง เป็นความตกลงฉบับที่ 6 ระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่ค้า หลังจากการลงนามเอฟทีเออาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ เมื่อปี 52 โดยเอฟทีเออาเซียน-ฮ่องกง จะก่อให้เกิดประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย โดยอาเซียนสามารถใช้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า โดยเฉพาะการเป็นประตูสู่ตลาดใหญ่อย่างจีน เพราะฮ่องกงมีความตกลงการค้าเสรีกับจีน โดยสินค้าจำนวน 1,819 รายการจากฮ่องกงสามารถส่งออกไปจีนในอัตราภาษี 0%
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสการยกมาตรฐานภาคบริการโดยผู้เชี่ยวชาญจากฮ่องกง โดยเฉพาะด้านการเงิน โลจิสติกส์ และการให้บริการทางกฎหมาย การเข้าสู่แหล่งทุนในฮ่องกง เพราะฮ่องกงมีศักยภาพในการลงทุนด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ตามแผนแม่บทด้านความเชื่อมโยงอาเซีย
ขณะที่ฮ่องกงจะได้ประโยชน์ด้านภาษี โดยสามารถส่งออกสินค้ามายังอาเซียนโดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า หรือเสียภาษีในอัตราต่ำ ส่วนอาเซียนจะได้ประโยชน์ในด้านต้นทุนและราคาสินค้าในส่วนที่นำเข้าจากฮ่องกงที่ลดลง เพราะฮ่องกงตกลงที่จะลดภาษีสินค้าทุกรายการภายใต้เอฟทีเออาเซียน-ฮ่องกง ที่ 0% จากปัจจุบันฮ่องกงไม่ได้ผูกพันสินค้าทุกรายการในองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) ที่ 0% ซึ่งอาจมีการปรับขึ้นภาษีได้ในอนาคต
นอกจากนี้ ฮ่องกงยังให้เงินสนับสนุน 25 ล้านเหรียญฮ่องกง สำหรับโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และวิชาการแก่อาเซียน ในระยะเวลา 5 ปี หลังความตกลงมีผลบังคับใช้ ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือด้านศุลกากร การอำนวยความสะดวกทางการค้าโลจิสติกส์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ทั้งนี้ ในปี 59 ฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับ 9 ของไทย และเป็นประตูสู่จีนแผ่นดินใหญ่ โดยมูลค่าการค้า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า ข้าว ผลไม้สด สินค้านำเข้าจากฮ่องกง ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อัญมณีและเครื่องประดับ และผ้าผืน
สำหรับ การลงทุนนั้น ปี 59 ฮ่องกงได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นอันดับที่ 7 จำนวน 32 โครงการ มูลค่า 8,600 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมา 68.9