ไทยเจอศึกหนักถูกภาคเอกชนสหรัฐฯรุมยำ ชี้เหตุได้ดุลการค้าเพราะมีมาตรการกีดกัน อุดหนุนสินค้าภายใน เก็บภาษีนำเข้าสูง สินค้าหมู กุ้ง ข้าวระส่ำ เตรียมส่งล็อบบี้ยิสต์เจรจา ขณะที่ตัวเลขส่งออกเดือน เม.ย. ขยายตัว 8.49%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ (สพต.) ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ได้รายงานมายังกระทรวงพาณิชย์ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯได้ขอความร่วมมือ 13 ประเทศที่ได้ดุลการค้าสหรัฐฯรวมถึงไทย จัดทำข้อมูลนโยบายการค้าส่งให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯภายในวันที่ 10 พ.ค.2560 เพื่อหาสาเหตุของการขาดดุลและทำรายงานเสนอต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯตามคำสั่งพิเศษนั้น ล่าสุดมี 9 ประเทศที่ส่งข้อมูลแล้ว คือ ไทย ไต้หวัน สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และเม็กซิโก ส่วนเวียดนาม อินเดีย มาเลเซีย และจีน ยังไม่ได้จัดส่งข้อมูลให้
สำหรับข้อมูลจากไทย กระทรวงพาณิชย์ได้ยืนยันว่า นโยบายการค้าของไทยไม่เลือกปฏิบัติ และไม่ได้เอาเปรียบ หรือแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม จน ได้ดุลการค้าสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนสหรัฐฯ ได้ยื่นข้อมูลเพื่อประกอบการจัดทำรายงานด้วยประมาณ 100 สมาคม โดยมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับข้อมูลนโยบายการค้าที่แต่ละประเทศจัดส่งให้ ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับไทย หลายสมาคมเห็นว่า การที่ไทยได้ดุลการค้าเพราะมีมาตรการกีดกันการค้า หรือการอุดหนุนภายใน โดยสมาคมที่พาดพิงไทยได้แก่ สมาคมผู้ผลิตกุ้งสหรัฐฯระบุว่าเพราะไทยมีการทุ่มตลาดสินค้ากุ้งจนทำให้
ผู้ผลิตกุ้งของสหรัฐฯได้รับความเสียหาย, สมาพันธ์ผู้ผลิตสุกรแห่งชาติ ระบุว่าเพราะไทยห้ามนำเข้าสุกรจากสหรัฐฯ เนื่องจากมีสารเร่งเนื้อแดง แต่ไทยกลับได้รับสิทธิส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯโดยได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ได้รับการยกเว้นการเสียภาษีนำเข้า
นอกจากนี้ สมาคมข้าวแห่งสหรัฐฯระบุว่า การอุดหนุนภายในของไทยทำให้การส่งออกข้าวของสหรัฐฯไปประเทศต่างๆลดลง, สมาพันธ์ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์นมสหรัฐฯ และ Whirlpool Association ระบุว่า ไทยมีอัตราภาษีนำเข้าสูง เก็บอากรและค่าธรรมเนียม ทำให้การนำเข้าสินค้าสหรัฐฯทำได้ยาก, พันธมิตรทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างประเทศ ระบุว่า ไทยยังมีการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างไม่เพียงพอ
ขณะที่ผู้ผลิตและวิจัยยาแห่งอเมริกา ระบุว่า ไทยมีระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และการกำหนดราคากลางยาที่ไม่โปร่งใส อีกทั้งยังมีความล่าช้าในการออกสิทธิบัตรยา ทำให้ผู้ประกอบการเสียโอกาสทางธุรกิจ, สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติก ระบุว่า มาตรการทางภาษี และไม่ใช่ภาษีของไทย ทำให้สหรัฐฯขาดดุล การค้าในผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น
ทั้งนี้ สพต. ณ กรุงวอชิงตัน เห็นว่า ภาคเอกชนสหรัฐฯส่วนหนึ่งมีทัศนคติทางลบต่อไทย โดยกล่าวหาว่าไทยใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และยังมีอัตราภาษีนำเข้าในบางสินค้าสูง ซึ่ง สพต. จะหารือกับบริษัทที่ปรึกษา (ล็อบบี้ยิสต์) และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ในการทำเอกสารชี้แจงประเด็นข้อกังขาต่างๆ รวมทั้งเข้าเยี่ยมบริษัท และสมาคมเหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจ และหาแนวทางแก้ไขต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (22 พ.ค.) กระทรวงพาณิชย์จะแถลงข่าวสถานการณ์การส่งออกของไทยเดือน เม.ย.2560 โดยมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 16,864.30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 8.49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อรวม 4 เดือนแรกของปี 2560 มีมูลค่าส่งออกรวม 73,320.69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 5.72% ส่วนการนำเข้าสินค้าของไทยในเดือน เม.ย. 2560 ขยายตัว 13.38% มีมูลค่า 16,807.46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.