ความเชื่อมั่นสะเทือนท่องเที่ยวไทย

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ความเชื่อมั่นสะเทือนท่องเที่ยวไทย

Date Time: 30 ธ.ค. 2568 04:15 น.

Summary

ปี 2568 ถูกกำหนดให้เป็นปีเร่งเครื่องของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายตั้งแต่ต้นปีว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 38–40 ล้านคน เพื่อผลักดันรายได้รวมกลับสู่ระดับก่อนเกิดสถานการณ์โควิด–19

Latest

ชวนอ่านเรื่องดีๆ ส่งท้ายปี 2568

ปี 2568 ถูกกำหนดให้เป็นปีเร่งเครื่องของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายตั้งแต่ต้นปีว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 38–40 ล้านคน เพื่อผลักดันรายได้รวมกลับสู่ระดับก่อนเกิดสถานการณ์โควิด–19

อย่างไรก็ตาม เมื่อประเมินสถานการณ์ในช่วงปลายปี ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2568 มีแนวโน้มปิดที่เพียงราว 32.8 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมอย่างมีนัยสำคัญ และสะท้อนอย่างชัดเจนว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยในปีนี้ไม่ได้สะดุดจากภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยหลัก หากแต่เกิดจากปัญหาความเชื่อมั่นและความปลอดภัยภายในประเทศ ซึ่งกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ฉุดการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ปัจจัยลบเริ่มก่อตัวตั้งแต่ช่วงต้นปี จากปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนไทย ซึ่งถูกเชื่อมโยงกับประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ ก่อนที่สถานการณ์จะทวีความรุนแรงขึ้นหลังเกิดเหตุการลักพาตัวดาราชาวจีน “ซิงซิง” จนกลายเป็นข่าวใหญ่ในสื่อจีนและโซเชียลมีเดีย

เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เพียงกระทบภาพลักษณ์เชิงข่าว แต่สะท้อนออกมาเป็นพฤติกรรมจริง เมื่อกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนและนักท่องเที่ยวจากประเทศที่ใช้ภาษาจีนเป็นหลักพากันยกเลิกหรือชะลอการเดินทางมาไทยอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี และส่งผลกระทบต่อเนื่องยาวตลอดทั้งปี

แรงกระแทกด้าน ความเชื่อมั่นยังไม่ทันคลี่คลาย ภาคท่องเที่ยวไทยกลับต้องเผชิญความเสี่ยงซ้ำจากสถานการณ์ การสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 แม้เหตุการณ์จะจำกัดอยู่ในบางพื้นที่ แต่ผลกระทบเชิงจิตวิทยาด้านความปลอดภัยกลับขยายวงกว้าง หลายประเทศเริ่มออกคำเตือนการเดินทางในระดับต่างๆ ส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงปลายปีซึ่งควรเป็นช่วงไฮซีซัน ถูกกดทับด้วยความไม่แน่นอนอีกระลอกหนึ่ง

ภาพรวมทั้งหมดตอกย้ำว่าความมั่นคงและความปลอดภัยไม่ใช่ปัจจัยรองของการท่องเที่ยว แต่เป็นเงื่อนไขเชิงนโยบายที่ชี้เป็นชี้ตายต่อความเชื่อมั่นของตลาดโลก

อย่างไรก็ตาม  หากมองลึกลงไปในโครงสร้างตลาด จะพบว่าปี 2568 ไม่ได้มีเพียงด้านลบ เพราะในอีกฟากหนึ่ง ตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล หรือ Long–haul market กลับ เติบโตสวนทาง และกลายเป็นแรงพยุงสำคัญของระบบท่องเที่ยวไทย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลสามารถขยายตัวจนทะลุ 10 ล้านคนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ คิดเป็นสัดส่วนราวหนึ่งในสามของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด สะท้อนการเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างจากการพึ่งพาตลาดระยะใกล้ ไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพด้านการใช้จ่ายและระยะเวลาพำนักสูงกว่า

ความสำเร็จของตลาดระยะไกลไม่ได้เกิดจากกระแสชั่วคราว หากแต่เป็นผลจากยุทธศาสตร์ Airline Focus การขยายเส้นทางบินตรง และการเพิ่มความถี่เที่ยวบิน นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีลักษณะสำคัญคือใช้จ่ายต่อหัวสูง พำนักนาน และมีความยืดหยุ่นต่อความผันผวนด้านราคา ทำให้สามารถช่วยประคองรายได้รวมของประเทศไว้ได้ แม้จำนวนผู้มาเยือนโดยรวมจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี

ตัวเลขรายได้สะท้อนภาพดังกล่าวอย่างชัดเจน เมื่อการท่องเที่ยวไทยในปี 2568 ยังสามารถสร้างรายได้รวมได้ราว 2.6- 2.68 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงระดับก่อนโควิด ทั้งที่จำนวนนักท่องเที่ยว ยังไม่ฟื้นเต็มศักยภาพ ภาพนี้ชี้ให้เห็นว่าการท่องเที่ยวไทยกำลังเปลี่ยนจากโมเดลการไล่จำนวน ไปสู่การคัดคุณภาพตลาดมากขึ้น แม้จะยังต้องแลกกับความเปราะบางด้านความเชื่อมั่นในบางตลาดก็ตาม

มองไปข้างหน้าในปี 2569 รัฐบาลและ ททท.วางเป้าหมายเชิงโครงสร้างอย่างชัดเจน โดยตั้งเป้ารายได้รวมจากการท่องเที่ยวที่ระดับ 3 ล้านล้านบาท เทียบเท่าปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศ 1 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายการเดินทาง 208 ล้านคน-ครั้ง และรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท ภายใต้เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 36 ล้านคน แบ่งเป็นตลาดระยะไกล 11 ล้านคน และตลาดระยะใกล้ 25 ล้านคน

สาระสำคัญของเป้าหมายปี 2569 ไม่ได้อยู่ที่การทำสถิติจำนวนผู้มาเยือน เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังต่ำกว่าปี 2562 ซึ่งเคยสูงถึง 39 ล้านคน แต่การตั้งเป้ารายได้รวมในระดับเท่ากัน สะท้อนอย่างชัดเจนว่ารัฐกำลังเดิมพันกับยุทธศาสตร์นักท่องเที่ยวคุณภาพให้ใช้จ่ายมากขึ้น พำนักนานขึ้น และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงขึ้นต่อคน แทนการเร่งดึงปริมาณจำนวนมากเข้าประเทศเหมือนในอดีต

บทเรียนจากปี 2568 จึงชัดเจนว่าการท่องเที่ยวไทยไม่อาจขับเคลื่อนด้วยแคมเปญหรือ Soft Power เพียงลำพัง หากรัฐยังไม่สามารถจัดการปัจจัยพื้นฐานด้านความปลอดภัย ความมั่นคง และความเชื่อมั่นได้อย่างจริงจัง ปี 2569 จะไม่ใช่ปีแห่งการเติบโตอย่างยั่งยืน แต่จะเป็นเพียงปีของการประคองตัวท่ามกลางความไม่แน่นอนต่อไป.

อมรรัตน์ จรูญสมิทธิ์


คลิกอ่านคอลัมน์ “The Issue” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ