ลงทุนจริง “อีอีซี” 1.6 แสนล้าน “จุฬา” ชงรัฐบาลใหม่แก้สัญญารถไฟ 3 สนามบิน

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยว่า ในปี 68 ในพื้นที่อีอีซี มีการลงทุนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการลงทุนจริงในพื้นที่กว่า 116,416.30 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.การลงทุนรัฐและเอกชนในโครงสร้างพื้นฐาน 4 โครงการหลัก รวม 8,035.83 ล้านบาท ประกอบด้วย การลงทุนของภาครัฐ 6,285.28 ล้านบาท และการลงทุนของภาคเอกชน 1,750.55 ล้านบาท

2.การลงทุนจากแผนบูรณาการงบประมาณในพื้นที่อีอีซี รวม 6,137.57 ล้านบาท และ 3.การลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งในปี 68 การลงทุนของเอกชนที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ 102,242.90 ล้านบาท แบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมปิโตรเลียม 42,982.07 ล้านบาท 2. อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน 18,598.32 ล้านบาท 3.อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 12,762.14 ล้านบาท 4.อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี 12,691.68 ล้านบาท 5.อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก 8,686.06 ล้านบาท 6.อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร 6,122.21 ล้านบาท และ7.อุตสาหกรรมการผลิตเภสัชภัณฑ์ 400.41 ล้านบาท

สำหรับตัวเลขการลงทุนจริงในพื้นที่อีอีซีสะสมตั้งแต่ปี 61-68 รวมทั้งสิ้น 829,770.70 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.การลงทุนรัฐ–เอกชน 4 โครงการหลัก รวม 50,777.23 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนก.ย.68) ประกอบด้วย การลงทุนจากภาครัฐ 27,328.28 ล้านบาท คิดเป็น 53.82% การลงทุนจากภาคเอกชน 23,448.95 ล้านบาท คิดเป็น 46.18% โดยการลงทุนครอบคลุมค่าใช้จ่ายเตรียมพื้นที่และก่อสร้างโครงการสำคัญ เช่น งานถมทะเล งานโครงสร้างพื้นฐาน งานระบบสาธารณูปโภค และการพัฒนาพื้นที่สนับสนุนการคมนาคมและโลจิสติกส์

2.การลงทุนจากภาคเอกชน รวม 696,406.10 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมสมัยใหม่ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เทคโนโลยีขั้นสูง พลังงานสะอาด และระบบอัตโนมัติ และ 3.การลงทุนจากแผนบูรณาการอีอีซีรวม 82,587.37 ล้านบาท โดยในส่วนนี้เป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งเป็นรายจ่ายลงทุน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ และระบบสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่อีอีซี เป็นต้น

ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในพื้นที่อีอีซีในปี 69 ยังเติบโตต่อเนื่อง มีนักลงทุนจำนวนมากสอบถามแนวทางและโอกาสในการลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยเน้นโครงการที่ลงทุนจริงเพื่อให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ และเกิดผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนสิทธิประโยชน์ในพื้นที่เมืองการบินภาคตะวันออก และการแก้ไขสัญญารถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่ล่าช้ามานานกว่า 6-7 ปีนั้น อีอีซีได้เตรียมความพร้อมหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจะนำเสนอให้รัฐบาลชุดต่อไปพิจารณาตามขั้นตอน

ทั้งนี้ ได้จัดหาพื้นที่ 1,500 ไร่ไว้รองรับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่อีอีซี เพื่อเพิ่มแรงดึงดูดในพื้นที่ให้มากขึ้น และอีกส่วน 3,000 ไร่ เพื่อรองรับการลงทุนของดิสนีย์แลนด์