จ่อเพิ่มโทษ 'สินค้าสวมสิทธิ์'

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จ่อเพิ่มโทษ 'สินค้าสวมสิทธิ์'

Date Time: 22 ธ.ค. 2568 08:45 น.

Video

อวสานกองเอกสารหุ้น! รู้จัก TSD e-Document สมัครฟรี! ยุคนี้ใครไม่มี ระวังเอาต์ | Money Issue EP.40

Summary

กรมศุลกากรเตรียมปรับเกณฑ์ลงโทษ 'สินค้าสวมสิทธิ์' สกัดแปลงถิ่นกำเนิดเพื่อส่งออก ชี้โทษเดิมเบาไป-จ่อเทียบเท่าค่าปรับภาษี

Latest


นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรกำลังเร่งดำเนินการอย่างเข้มงวด เพื่อแก้ไขปัญหาการสวมสิทธิ์ถิ่นกำเนิดสินค้า โดยล่าสุด ได้เตรียมหารือคณะกรรมการเปรียบเทียบการฟ้องร้อง ซึ่งมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงการคลัง ร่วมพิจารณาเพิ่มเกณฑ์การลงโทษปรับให้สูงขึ้นสำหรับผู้ประกอบการที่แปลงแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อส่งออก โดยออกเป็นประกาศกรม 

สำหรับสาเหตุที่จะพิจารณาเพิ่มเกณฑ์ลงโทษ คือ ในอดีตกรมศุลกากรไม่สามารถดำเนินการทางกฎหมายที่รุนแรงกับสินค้าขาออกที่สวมสิทธิ์ได้ เนื่องจากสินค้าส่งออกส่วนใหญ่มักไม่มีภาระค่าภาษี ทำให้ค่าปรับที่ใช้ในการระงับคดีก่อนหน้านี้เบาเกินไปหรือเป็นเพียงการปรับฐานความผิดจากการสำแดงข้อมูลเป็นเท็จเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เทียบเท่ากับเนื้อภาษี 

ดังนั้น เพื่อให้มาตรการมีผลบังคับใช้จริง กรมศุลกากรจึงมีแผนจะเพิ่มเกณฑ์เปรียบเทียบระงับคดี สำหรับกรณีที่มีการแปลงแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อส่งออก โดยมีการพิจารณาว่า โทษสำหรับความผิดฐานแปลงแหล่งกำเนิดสินค้า แม้จะไม่มีการหลีกเลี่ยงภาษี เนื่องจากเป็นขาออกก็จะต้องมีโทษด้วย และอาจพิจารณาให้มีโทษที่สูงขึ้น เทียบเท่ากับโทษทางภาษี

สำหรับการเดินหน้าในเรื่องดังกล่าว มีผลต่อความเชื่อมั่นถิ่นกำเนิดสินค้าของไทยโดยเฉพาะประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงเกณฑ์โทษนี้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการและต้องพิจารณาให้รอบด้าน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบถึงผู้ประกอบการรายอื่นที่อาจสำแดงพิกัดหรือข้อมูลผิดพลาดโดยไม่ได้มีเจตนาหลีกเลี่ยง

ทั้งนี้ ปัจจุบันหน่วยงานรัฐได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อทำงานร่วมกันและมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างจริงจัง โดยเน้นการตรวจสอบพฤติการณ์ที่มีความเสี่ยงหลายรูปแบบ เช่น การใช้เขตปลอดอากร (ฟรีโซน) โดยมีการนำเข้าสินค้าชนิดหนึ่งเข้ามาในเขตปลอดอากร และส่งออกสินค้าชนิดเดียวกันนั้นออกไป ซึ่งบ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงในการสวมสิทธิ์ การปลอมแปลง “เมด อิน ไทยแลนด์” โดยพบวิธีการเลี่ยงใหม่ๆ โดยมีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและพิมพ์ข้อความ “Made in Thailand” เข้ามาเลย และ 3. การตรวจสอบ ซึ่งหน่วยงานมีการตรวจสอบบริษัทที่มีความเสี่ยง เช่น บริษัทที่นำเข้าและส่งออกสินค้าชนิดเดียวกันโดยไม่มีการแปรรูปสินค้าเลย และมีการส่งข้อมูลความเสี่ยงเหล่านี้ไปยังกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อให้ระมัดระวังในการออกใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ