
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินการในวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธอส. ว่า ตลอด 2 ปี ได้มุ่งมั่นทำงานเพื่อให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเอง เพราะบ้านคือพื้นฐานของชีวิต ที่สร้างความมั่นคง ความอบอุ่นของสถาบันครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ได้ปล่อยสินเชื่อใหม่ทำให้คนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น 392,000 บัญชี ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษรวมกว่า 460,000 ล้านบาท
“พันธกิจของ ธอส. ทำให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย รายได้ปานกลางได้เข้าถึงสินเชื่อ โดยลูกค้าของ ธอส. ส่วนใหญ่จะซื้อบ้านที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วนประชาชนที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อ ธอส. ก็พยายามให้ข้อมูลความรู้ สร้างวินัยการเงิน การเปลี่ยนค่าเช่าเป็นค่าผ่อนบ้าน เพื่อให้มีสินทรัพย์เป็นของตนเอง โดยปี 68 ได้ปล่อยสินเชื่อใหม่วงเงินไม่เกิน 3 ล้าน สูงถึง 112,143 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.9%"
สำหรับการช่วยเหลือเพื่อให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อบ้านนั้น ธอส. ได้มีโครงการโรงเรียนการเงิน ธอส. ในอดีต ธอส. ลงพื้นที่ให้ความรู้และคำปรึกษา แต่ในปัจจุบันหันมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนาและยกระดับโรงเรียนการเงิน ธอส.ผ่านแอปพลิเคชัน GHB ALL Gen สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ไม่สามารถขอสินเชื่อได้
ทั้งนี้ เนื่องจากขาดเอกสารหลักฐานรายได้หรือที่มาของรายได้ไม่เพียงพอต่อการยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ให้เข้ามาออมเงินหรือเดินเงินบัญชี จากการประกอบธุรกิจอย่างสม่ำเสมอผ่านแอป GHB ALL GEN เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 12 เดือน เพื่อนำหลักฐานการออมหรือ Statement มาใช้สำหรับยื่นขอสินเชื่อกับ ธอส. ซึ่งตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน มีผู้สนใจลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีเงินออมกว่า 220,000 ราย และมีลูกค้าได้รับสินเชื่อจาก ธอส.มากกว่า 50,000 ราย
นอกจากนี้ ยังได้ขยายความร่วมมือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จัดทำ “โครงการบ้าน ธอส. โรงเรียนการเงิน X Developer” เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรที่ธนาคารรับขึ้นทะเบียนไว้ ออมเงินหรือ Statement จากการประกอบธุรกิจ ผ่านแอป GHB ALL GEN เพื่อสร้างวินัยทางการเงินอย่างเป็นระบบ เพิ่มความสามารถในการยื่นขอสินเชื่อกับ ธอส. และสร้างโอกาสในการมีบ้านเป็นของตนเองได้ในอนาคต ช่วยตอบโจทย์การเป็นสถาบันการเงินที่ไม่ได้มุ่งเน้นกำไรสูงสุด แต่เน้นให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง รวมถึงลูกค้ากลุ่มเปราะบางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับพันธกิจของธนาคาร
นายกมลภพ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธอส. พยายามช่วยลูกค้ารักษาบ้านไว้ ผ่านมาตรการแก้ไขหนี้สินภาคครัวเรือน ทั้งพักชำระดอกเบี้ย ลดเงินงวดและลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงสนับสนุนโครงการรัฐ ทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดเงินงวดผ่อนชำระให้กับลูกค้าตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งสามารถช่วยลูกค้ากลับมามีสถานะปกติและรักษาบ้านของตนเองไว้ได้กว่า 590,000 บัญชี
สำหรับผลการดำเนินการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 68 ธอส. ได้รับเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ 241,780 ล้านบาท โดยเชื่อว่าการปล่อยสินเชื่อเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน และการเข้าไปดูแลให้ประชาชนกลุ่มนี้ให้เข้าถึงสินเชื่อได้บนพื้นฐานการมีวินัยทางการเงินที่ดี ส่งผลให้ปัจจุบัน ธอส. มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 43.7% สูงสุดในรอบ 20 ปี
“ผมดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ วันสุดท้ายวันที่ 19 ธ.ค. 68 นี้ จากนั้นจะส่งมอบงานให้นายมหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธอส. คนใหม่ ซึ่งจะเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 68 เป็นต้นไป จริง ๆ ไม่มีอะไรจะฝาก เพราะถือเป็นคนเก่งอยู่แล้ว แค่อยากบอกว่า ขอให้สานฝันคนไทยได้มีบ้านเป็นของตนเองอย่างต่อเนื่อง”
นายกมลภพ กล่าวย้ำว่า นอกจากนี้ ธอส. ยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ (Quick Big Win) ของรัฐบาล ด้วยการจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้ครัวเรือนผ่าน 6 มาตรการสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ทำให้ ธอส. สามารถช่วยรักษาบ้านให้กับคนไทยได้เป็นจำนวนมากอีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนที่ประสบปัญหาด้านต่างๆ ในทุกช่วงเวลา
ด้วยการจัดทำมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือ เยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ครอบคลุมการพักชำระหนี้ กู้เพิ่มเพื่อซื้ออุปกรณ์ฯ และกู้เพื่อซ่อมแซมอาคารหรือปลูกสร้างอาคารหลังเดิมที่ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อช่วยให้ลูกค้ากลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
สำหรับแนวทางการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่ธนาคารที่เติบโตอย่างยั่งยืน ในมิติ ESG นั้น ธอส.ได้ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และอยู่ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ ESG Loan โครงการสินเชื่อเพื่ออาคารคาร์บอนต่ำ โครงการขยายฐานสินเชื่อปล่อยใหม่กลุ่ม Social Solution โครงการสินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ และโครงการ ธอส. โรงเรียนการเงิน ฯลฯ การดำเนินการทั้งหมดนี้ของ ธอส. สะท้อนถึงความมุ่งมั่นเดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าและประชาชน เพื่อวางรากฐาน ธอส. เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน