นายกฯสั่งคลัง-พาณิชย์ถกแก้บาทแข็ง ด้านผู้ว่าธปท.เข้มเช็กเงินค้าทอง-ตีกันพวกแอบเก็งกำไร

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

นายกฯสั่งคลัง-พาณิชย์ถกแก้บาทแข็ง ด้านผู้ว่าธปท.เข้มเช็กเงินค้าทอง-ตีกันพวกแอบเก็งกำไร

Date Time: 17 ธ.ค. 2568 07:20 น.

Summary

นายกฯสั่ง “คลัง-พาณิชย์-ธปท”.จัดการบาทแข็งด่วน ด้าน ธปท.เปิดหน้าชน “วิทัย”แจงเข้าแทรกแซงเงินบาทลดเงินบาทแข็งเร็ว สั่งตรวจเข้มการทำธุรกรรมซื้อขายทองคำ

Latest

ชี้เป้าอัปเกรดสินค้าเกษตรลุยแข่งตลาดโลก

นายกฯสั่ง “คลัง-พาณิชย์-ธปท”.จัดการบาทแข็งด่วน ด้าน ธปท.เปิดหน้าชน “วิทัย”แจงเข้าแทรกแซงเงินบาทลดเงินบาทแข็งเร็ว สั่งตรวจเข้มการทำธุรกรรมซื้อขายทองคำ ป้องกันการไหลเข้าของเงินไม่พึงประสงค์ ตั้งหน่วยงานใหม่กำกับดูแลซื้อขายทองคำ ขณะที่ SCB EIC ชี้ค่าเงินบาทแข็งค่าแล้ว 9.3% เทียบจากต้นปี แต่มีโอกาสอ่อนลงได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้มอบหมายให้้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เพื่อหาแนวทางในการรับมือค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้  โดยนายเอกนิติ กล่าวว่า ได้รับทราบข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้กระทรวงคลัง และกระทรวงพาณิชย์ หารือร่วม ธปท.เกี่ยวกับธุรกรรมซื้อขายทองคำทุกธุรกรรม เพื่อแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งเร็วเกินไป โดยได้รับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เพื่อไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.เงินบาทแข็งค่าขึ้น 2.5% สาเหตุหลักมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากปัจจัยเฉพาะของไทยเอง เช่น ปัจจัยฤดูกาลในช่วงท้ายปีที่ทำให้มีเงินไหลเข้าสูงขึ้น ทั้งจากการท่องเที่ยวและการส่งออก รวมทั้งเงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในหุ้นและพันธบัตร นอกจากนี้ ยังมีธุรกรรมจากกลุ่มผู้ค้าทองคำที่มีปริมาณธุรกรรมขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อเงินบาทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“ธปท. จึงเข้าดูแลค่าเงินบาทและคุมเข้มธุรกรรมการขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อซื้อเงินบาทของธุรกิจทองคำ โดยได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบเอกสารการขายเงินตราต่างประเทศเพื่อแลกซื้อเงินบาทของธุรกิจทองคำอย่างเข้มงวด และอยู่ระหว่างการขอให้ออกประกาศกระทรวงการคลังเพื่อให้อำนาจ ธปท. ในการเรียกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศจากผู้ค้าทองคำรายใหญ่ รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับธุรกรรมการขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อซื้อเงินบาท  เนื่องจากธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศของธุรกิจทองคำในบางช่วงมีสัดส่วนสูงถึง 20% ของการซื้อขายเงินตราต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งมีผลต่อความผันผวนของค่าเงินบาท”

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวต่อว่า ธปท.ได้หารือกับกระทรวงการคลังเพื่อขอให้มีหน่วยงานที่เหมาะสมเข้ากำกับดูแลธุรกิจทองคำ โดยเฉพาะการซื้อขายทองคำออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่มีขนาดธุรกรรมใหญ่ขึ้นมาก และส่งผลให้เกิดความผันผวนของค่าเงินบาทอย่างชัดเจน อีกทั้ง ธปท.จะเข้าตรวจสอบการทำธุรกรรมขายเงินตราต่างประเทศเพื่อซื้อเงินบาท เพื่อป้องกันการนำเงินเข้าประเทศที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจปกติและการโอนเงินของบุคคลธรรมดา โดยจะให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศอย่างเคร่งครัด

ด้านนายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการทำการประเมินของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC)  ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องแข็งค่าขึ้น 9.3% เทียบจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน และแข็งค่าขึ้น 2.1% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งหากเทียบในภูมิภาแข็งค่าน้อยกว่ามาเลยเซียเพียงประเทศเดียวเท่านั้น ส่งผลให้ความได้เปรียบของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับคู่ค้าคู่แข่งในขณะนี้ลดลง หรือแทบไม่มีเลย จากเดิมที่เราเคยได้เปรียบมากหลังช่วงต้มยำกุ้งที่ค่าเงินบาทของเราอ่อนค่าลงไปมาก 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปีแรกของปีหน้าค่าเงินบาทอาจจะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้ต่อเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ทำให้ทิศทางค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า แต่ในระยะกลาง-ยาว ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า มองว่าเงินบาทอาจอ่อนค่าได้ ซึ่งมาจากปัจจัยในสหรัฐที่ทำให้ดอลลลาร์แข็งค่าข้น เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มอ่อนแอลง รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมือง  รวมทั้ง ราคาทองคำที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอัตราที่น้อยลงในปีหน้า และการที่ ธปท. พยายามลดความสัมพันธ์ของเงินบาทกับราคาทองคำลง ทำให้แรงพยุงเงินบาทให้แข็งค่าต่อเนื่องในปีหน้าอาจลดลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันที่ 16 ธ.ค.ที่ระดับ 31.48 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ  อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง จากระดับปิดของวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 31.44 บาทต่อดอลลารฯ ์และปิดที่ระดับ 31.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเช้าของวัน



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ