ชี้เป้าอัปเกรดสินค้าเกษตรลุยแข่งตลาดโลก

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ติดตามสถานการณ์การค้า กลุ่มสินค้าเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู ที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูและปรับปรุงสุขภาพดิน การกักเก็บคาร์บอน ที่ตอบโจทย์ทั้งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยข้อมูลจากยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล พบว่า เกษตรกรรมเชิงฟื้นฟูกำลังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลร่างกาย ซึ่งสอดคล้องกับไทยที่เป็นประเทศเกษตรกรรม

นอกจากนี้ การสำรวจพบว่า 60% ของบริษัทชั้นนำทั่วโลก มีการวางแผนการลงทุนระยะเวลา 5 ปี ด้านการจัดหาวัตถุดิบที่ยั่งยืน และเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น โดยมี 5 หมวดสินค้าที่เป็นดาวรุ่งและเติบโตรวดเร็วมียอดขายปลีกสูงสุดใน 25 ตลาดหลัก เช่น แคนาดา จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ฯลฯ ได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์นมและนมทางเลือก ยอดขายปลีกประมาณ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ไทยส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมปี 67 ที่ 388.05 ล้านเหรียญฯ จึงเป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกมาก

“จากข้อมูลยอดขายปลีกสินค้าเกษตรเชิงฟื้นฟูใน 25 ตลาดหลัก แสดงให้เห็นว่า แนวโน้มนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในฝั่งผู้ผลิต แต่ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกในปี 63-67 ก็เพิ่มขึ้นถึง 13% โดยมีฝรั่งเศสและสหรัฐฯ เป็นผู้นำ ซึ่งมีการใช้จ่ายต่อหัวในการบริโภคสินค้าเกษตรเชิงฟื้นฟูเพิ่มขึ้น 42% และ 35% ตามลำดับ”

กลุ่มที่ 2 อาหารหลักที่คนส่วนใหญ่บริโภค มียอดขายปลีกประมาณ 2,250 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ไทยซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรที่เป็นอาหารหลักอย่างข้าว และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง มีมูลค่าการส่งออกปี 67 รวมกว่า 9,602.15 ล้านเหรียญฯ ดังนั้น การนำแนวทางเกษตรฟื้นฟูมาใช้จะช่วยยกระดับการส่งออกได้ กลุ่มที่ 3 ส่วนผสมและเครื่องปรุงในการปรุงอาหาร มียอดขายปลีก 2,000 ล้านเหรียญฯ โดยสินค้ากลุ่มนี้เป็นจุดแข็งของไทย เช่น ซอส น้ำปลา เครื่องแกง และผงปรุงรส มีมูลค่า 1,061.66 ล้านเหรียญฯ ถือว่าสูงมาก

กลุ่มที่ 4 เครื่องดื่ม มียอดขายปลีก 400 ล้านเหรียญฯ แม้มูลค่าตลาดโลกในกลุ่มนี้ยังน้อย แต่เป็นโอกาสโดยตรงของสินค้าดาวรุ่งของไทยอย่างน้ำมะพร้าว และน้ำผลไม้เมืองร้อน ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดในหลายประเทศอยู่ โดยการส่งออกน้ำผลไม้ของไทยขยายตัวได้มากถึง 19.99-30.21% และกลุ่มสุดท้ายผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง มียอดขายปลีก 300 ล้านเหรียญฯ เติบโต 73% สอดคล้องกับไทยที่เป็นผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับต้น ๆ ของโลก ด้วยมูลค่า 3,029.42 ล้านเหรียญฯ