
นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยสรุปภาพรวมของระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ว่า ยังมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ รวมสถาบันในเครือ ไตรมาส 3 โดยรวมยังหดตัว 1% จากระยะเดียวกันปีก่อน และเป็นการลดลงต่อเนื่อง 5 ไตรมาส โดยยังต้องติดตามต่อไปว่า ในไตรมาสต่อไป จะมีโอกาสกลับมาขยายตัวหรือไม่ โดยส่วนหนึ่งขึ้นกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สินเชื่อในภาคธุรกิจเอสเอ็มอี หดตัวที่ 4% จากความเสี่ยงด้านเครดิตที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวเล็กน้อย 0.7% ส่วนสินเชื่ออุปโภคบริโภคหดตัว 1.7% อย่างไรก็ตาม สินเชื่อบัตรเครดิตที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรถยนต์ติดลบเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า
สินเชื่อด้อยคุณภาพ(เอ็นพีแอล)ค่อนข้างทรงตัวอยู่ที่ 2.94% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2.89% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งมาจากผลของฐานสินเชื่อที่หดตัว โดยเอ็นพีแอลที่เกิดขึ้นใหม่ในไตรมาส 3 ชะลอลงที่ 99,000 ล้านบาท จากที่เพิ่มขึ้นที่ 110,000 ล้านบาทในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ยอดคงค้างเอ็นพีแอลปรับลดลงมาอยู่ที่ 544,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อ Stage 2 หรือสินเชื่อที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ (ขาดส่ง 1 เดือน แต่ไม่ถึง 3 เดือน ) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.24% มาจากการด้อยคุณภาพของสินเชื่อและหนี้เอ็นพีแอลที่กลับมาเริ่มผ่อนชำระได้อีกครั้ง
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา การหดตัวของสินเชื่อ และความร่วมมือในการช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้กำไรสุทธิของระบบธนาคารไตรมาส 3 อยู่ที่ 66,000 ล้านบาท ลดลง 6.9% และเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบ 7 ไตรมาส โดยแบงก์มีรายได้จากดอกเบี้ยสุทธิลดลง 10.7% ทั้งการปรับลดโดยธนาคารและตามมาตรการคุณสู้ เราช่วย ทั้งนี้ ธปท.ยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้เอสเอ็มอีและครัวเรือน จากเศรษฐกิจที่ยังชะลอลง ผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯและรายได้ที่ฟื้นตัวช้า โดยจากการประมาณการเบื้องต้น หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 3 ลดลงมาอยู่ที่ 86.6% ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อย ขณะที่ความช่วยเหลือภายใต้โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" สามารถช่วยลูกหนี้ได้ทั้งสิ้น 940,000 ราย มูลหนี้ 620,000 ล้านบาท ช่วยให้รถยนต์ไม่ถูกยึด 310,000 แสนคัน และบ้านไม่ถูกยึด 250,000 หลัง