ปลดล็อกขายเหล้า-เบียร์ยังว้าวุ่น ไฟเขียวช่วง 14.00-17.00 น.แต่ลั่นดาลเวลานั่งดื่มหลังเที่ยงคืน

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ปลดล็อกขายเหล้า-เบียร์ยังว้าวุ่น ไฟเขียวช่วง 14.00-17.00 น.แต่ลั่นดาลเวลานั่งดื่มหลังเที่ยงคืน

Date Time: 14 พ.ย. 2568 07:00 น.

Summary

คณะกรรมการฯ พิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ขยายเวลาขายช่วงบ่ายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

  • กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นตลาดต่อนายกฯ ในวันที่ 18 พ.ย. 2568
  • มีการหารือเรื่องขยายเวลานั่งดื่มหลังเที่ยงคืน โดยมีข้อโต้แย้งจากฝ่ายสาธารณสุข
  • เปิดตัวโครงการ Trusted Thailand เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
  • ททท. เปิดรับผู้ประกอบการเข้าร่วมประเมินรับตราสัญลักษณ์ Trusted Thailand 4 ประเภท

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ว่า ได้พิจารณาปัญหาที่เกี่ยวกับ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่2) พ.ศ.2568 ที่มีผลเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2568 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมจากกฎหมายเดิม มีสาระห้ามจำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานที่ขายหรือให้บริการเพื่อการค้า ตั้งแต่เวลา 00.00 น.(เที่ยงคืน) ถึง 11.00 น. และตั้งแต่เวลา 14.00-17.00 น. หากฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 10,000 บาท อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมครั้งนี้เห็นชอบให้มีการขยายระยะเวลาขายแอลกอฮอล์ในช่วง 14.00-17.00 น. ได้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งกระทรวงท่องเที่ยวมีความกังวลว่าความตื่นตระหนกในการบังคับใช้กฎหมายจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่มายังประเทศ หรือนักท่องเที่ยวในประเทศไม่เดินทางจับจ่ายใช้สอยเพื่อเฉลิมฉลอง ทั้งนี้ หลังจากนี้จะมีการรับฟังความคิดเห็นใน 15 วัน และจากนั้นจะมีการออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเข้า ครม.

ส่วนการขยายเวลานั่งดื่มจากหลังเวลา 24.00 น.ออกไป ได้หารือกันอย่างเคร่งเครียด โดยกระทรวงท่องเที่ยวฯและเอกชน มีความต้องการให้ขยายเวลาถึง 04.00 น. แต่ฝ่ายสาธารณสุขและแพทย์ไม่เห็นด้วย เนื่องจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุจะสูงสุดมาก ในช่วง 02.00-03.00 น. โดยสถิติชี้ว่า คนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับสูงมาก ในช่วง 02.00 น. ทั้งนี้ ได้เสนอให้คณะกรรมการควบคุมไปพูดคุยกันเพื่อหาจุดกึ่งกลางโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์ โดยมีการมองถึงโมเดล 01.00 น. หากขยายถึง 02.00 น. จะทำให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ในช่วงที่ผู้คนเริ่มเดินทางมาทำงาน เช่น 05.00 น. ถึง 07.00 น.เป็นต้น

“การแก้ไขมาตรการนี้เพราะเคยระบุในอดีตว่า ไม่อยากให้ข้าราชการ ไปดื่มเหล้า ในช่วงบ่าย 14.00-17.00 น. ซึ่งเคยมีการระบุห้ามดื่ม โดยฝ่ายนโยบายเห็นว่ามาตรการนี้หมดยุคแล้ว และควรยกเลิกเสีย เนื่องจากข้าราชการยุคนี้จะไม่ไปดื่มเหล้าในช่วงบ่ายแน่นอน โดยมาตรการที่นำไปสู่การปฏิบัติจริงไม่ได้ โดยระบุว่ามาตรการใดที่ส่งเสริมให้งดการดื่ม เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลนั้น สามารถส่งเสริมได้ แต่รัฐไม่ควรดำเนินการหากมาตรการนั้นนำไปสู่ภาคปฏิบัติไม่ได้ หากจะให้งดดื่มจะต้องมีแรงจูงใจ”

ด้านนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข เผยผลประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เห็นชอบ ปลดล็อกขายสุรา-เบียร์ช่วง 14.00-17.00 น. เป็นเวลา 6 เดือน พร้อมประเมินผลด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ และสังคม ก่อนพิจารณาต่ออายุ โดยคาดว่าจะประกาศใช้ได้ต้น ธันวาคม

ส่วนหลังเที่ยงคืน (24.00 น.) ยังคงห้ามขาย เช่นเดิม แต่ให้ลูกค้า นั่งต่อได้อีก 1 ชั่วโมง โดยมาตรการนี้ไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด เพราะอุบัติเหตุเมาแล้วขับระหว่าง 24.00-02.00 น. สูงที่สุด

ประเด็น โซนนิ่งสถานบริการ ยังมีผลตามกฎหมายเดิม ไม่ถูกยกเลิก โดยกระทรวงสาธารณสุข-กระทรวงท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาแบบรอบด้าน เพื่อคงสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสาธารณสุข ขณะที่กระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างแก้กฎหมายสถานบริการเพิ่มเติม

ส่วนข้อเสนอเปิดผับบาร์ถึง 04.00 น. ยังไม่ดำเนินการ เพราะข้อมูลศึกษาชี้ว่าอุบัติเหตุจากเมาแล้วขับเพิ่มขึ้นชัดเจนในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้รัฐบาลต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนควบคู่ไปกับการส่งเสริมเศรษฐกิจ

ขณะที่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 พ.ย.68 กระทรวงการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมนำภาคเอกชนท่องเที่ยว เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อนำเสนอมาตรการกระตุ้นตลาด และช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการขอให้รัฐบาลสนับสนุนจัดโปรโมชั่นในช่วงโลว์ซีซั่น เช่น การนำโครงการแจกตั๋วเครื่องบินฟรี สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2568 ได้เปิดโครงการ “Trusted Thailand” เพื่อเสริมความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเลือกสถานประกอบการโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยว ผ่านตราสัญลักษณ์ Trusted Thailand ที่สร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวให้กลับมาเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน

น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. เปิดรับผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้ารับการประเมิน เพื่อรับตราสัญลักษณ์ “Trusted Thailand” ผ่านเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/trustedthailand โดยแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ โรงแรมและที่พัก ภัตตาคารและร้านอาหาร นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ซึ่งจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์ 4 ด้าน ได้แก่ 1.มาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว 2.มาตรการควบคุมความปลอดภัยในการชำระเงิน การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการเงินที่ปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในตลาดหลัก (เช่น Alipay, WeChat Pay) 3.การสื่อสารภาษาต่างประเทศ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน และการดูแลนักท่องเที่ยวด้วยความเอาใจใส่และเป็นมืออาชีพ 4.ความปลอดภัยในการเดินทางเข้าถึง และการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมรับการประเมิน ไม่น้อยกว่า 5,000 ราย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ