
รมว.ดีอี สั่งให้ทบทวนมติสรรหา ผอ. ดีป้า เนื่องจากอาจไม่เป็นไปตามกฎหมาย
นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และโฆษกกระทรวงดีอี เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ได้จัดให้มีการดำเนินการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) นั้น เบื้องต้น นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้มีคำสั่งให้คณะกรรมการฯ ทบทวนมติที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าวก่อนที่จะมีการสรรหา
โดยจากการพิจารณา พบว่า การดำเนินการกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการดีป้าคนใหม่ อาจมีขั้นตอนการสรรหาที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จึงได้ขอให้ประธานกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ทบทวนเรื่องดังกล่าวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ รักษาการผอ.ดีป้า ได้ครบวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี เมื่อเดือนก.ค. 2568 จากนั้นนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรมว.ดีอีคนก่อนหน้า ได้ลงนามให้เริ่มต้นกระบวนการสรรหาเมื่อเดือนส.ค. 2568 เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของดีป้า แล้วจึงได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาขึ้นโดยมี ม.ล.ภาริพงศ์ ทองใหญ่ 1 ในคณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นประธาน โดยกระบวนการสรรหาซึ่งเริ่มต้นไปเมื่อ 19 ก.ย. 2568 จะครบกำหนด 90 วัน ตามข้อบังคับและมติครม. ในวันที่ 19 ธ.ค. 2568 โดยขณะนี้ดีป้ากำลังอยู่ระหว่างเปิดรับสมัครผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการจนถึงวันที่ 17 พ.ย. 2568
โดยสำหรับคนในที่คาดว่าจะเสนอตัวเข้ารับการสรรหา ประกอบด้วย น.ส.กษมา กองสมัคร รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ดีป้า ดูแลงานด้านนโยบาย ยุทธศาสตร์ ความมั่นคงดิจิทัล และความร่วมมือระหว่างประเทศ, นายปรีสาร รักวาทิน รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานส่งเสริมการประยุกต์ใช้ดิจิทัล
โดยนอกจากต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการขับเคลื่อนนโยบายแผนที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลระดับชาติแล้ว ผู้สมัครต้องเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารของหน่วยงานราชการ ตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น (C9) ขึ้นไป หรือเป็นผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ในตำแหน่งระดับผู้ช่วยผู้บริหารสูงสุดขึ้นไปขององค์กรนั้น ๆ และต้องมีผลงานหรือประสบการณ์ในการจัดทำและขับเคลื่อนนโยบายและแผนระดับชาติด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาไม่น้อยกว่า 2 เรื่อง และมีบทบาทในการบริหารงบประมาณไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท หรือผู้สมัครจะต้องเป็นผู้บริหารสูงสุดหรือรองในหน่วยงานภาคเอกชนอย่างน้อย 2 ปี บริหารงบประมาณและมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และมีบุคลากรไม่น้อยกว่า 300 คน และมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท