
กระทรวงคมนาคมมีนโยบายลดค่าทางด่วนในเมืองเหลือ 50 บาท เริ่มต้นปี 2569
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแนวทางการลดค่าครองชีพประชาชน ในส่วนของค่าผ่านทางด่วน โดยกระทรวงคมนาคมมีนโยบายชัดเจนที่จะลดค่าผ่านทางด่วนในเมืองเหลือ 50 บาทตลอดทุกเส้นทาง จากเดิม 90 บาท ซึ่งนโยบายนี้จะเริ่มได้ในต้นปี 2569 เป็นต้นไป
โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะมีการขยายสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด ออกไป 22 ปี 5 เดือน พร้อมทั้งให้เอกชนเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการในโครงการก่อสร้างทางด่วน โครงการ Double Deck จากงามวงศ์วาน-พระราม 9 มูลค่า 35,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายใน ธ.ค. 2568 โดยคาดว่า หลังสร้าง Double Deck และให้บริการจะช่วยแก้ไขปัญหาจราจร รถจะติดน้อยลง
รมว.คมนาคม ยังกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการทางหลวงพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 เส้นทาง กะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม. และระยะที่ 2 เมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทาง 30.62 กม.แน่นอน โดยจะให้ กทพ. เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้าง โดยในช่วงอุโมงค์กะทู้-ป่าตองนั้น ขณะนี้มีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะให้ประชาชนใช้ฟรีในช่วงดังกล่าว ส่วนระยะที่ 2 ให้เก็บค่าผ่านทางตามปกติ ขณะเดียวกันจะให้ กทพ. และกระทรวงคมนาคม หารือกับกระทรวงคลัง เรื่องขอยกเลิกการเก็บค่าผ่านทาง ว่า หากยกเลิกการเก็บค่าผ่านทาง จะสามารถนำงบประมาณส่วนไหนมาสนับสนุน
นายพิพัฒน์ กล่าวย้ำว่า โครงการนี้ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของภูเก็ต เพื่อแก้ปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุบนเส้นทางหลักเชื่อมระหว่างเมืองภูเก็ตกับหาดป่าตอง โดยขณะนี้โครงการอยู่ในขั้นตอนเตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง โดย กทพ. คาดว่าจะสามารถเปิดขายซองและเปิดซองประมูลได้ภายในปี 2569 ก่อนเริ่มก่อสร้างได้ในปีเดียวกัน และเปิดให้บริการในเดือน เม.ย. 2573
“การยกเว้นค่าผ่านทางช่วงอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่วนทางยกระดับในระยะที่ 2 จะยังคงเก็บค่าผ่านทางในอัตราปกติ เพราะประชาชนสามารถเลือกใช้เส้นทางได้ตามสะดวกว่าจะวิ่งด้านบนทางด่วน หรือวิ่งด้านล่าง โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาล เพื่อให้ภูเก็ตมีระบบคมนาคมที่ทันสมัยและปลอดภัย รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในอนาคต ขอให้พี่น้องชาวภูเก็ตมั่นใจว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นแน่นอน ไม่มีการหยุดหรือชะลอใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นไปตามแผน เพื่อให้การเดินทางของประชาชนสะดวก ปลอดภัย และช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดให้เติบโตต่อเนื่อง“