ครม.เศรษฐกิจปลดล็อกหนี้คนไทย แก้หนี้เสียรายย่อยผ่าน “AMC” กว่า 2.36 ล้านบัญชี
Date Time: 4 พ.ย. 2568 06:00 น.
“Summary“
“เอกนิติ” เผยครม.เศรษฐกิจไฟเขียวแก้หนี้เสียรายย่อย ผ่าน “บริษัทบริหารสินทรัพย์” (AMC) ระยะแรกช่วยลูกหนี้รายย่อยที่มียอดหนี้ไม่เกิน 1 แสนบาท กว่า 2.36 ล้านบัญชี มูลหนี้ 6.2 หมื่นล้านบาท “ผู้ว่าธปท.” ย้ำทำครั้งเดียว และไม่กระทบเสถียรภาพการคลัง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 3 ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชน ผ่านโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียรายย่อย โดยใช้กลไกการซื้อหนี้ของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อเร่งบรรเทาภาระหนี้ประชาชนตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
ทั้งนี้ปัจจุบัน มีลูกหนี้รายย่อยจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีหลักประกันและมีปัญหาผ่อนชำระจนกลายเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) กระทรวงการคลังจึงร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงิน ทำโครงการแก้หนี้เสียผ่านกลไก AMC เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยให้ลูกหนี้ปิดบัญชีและกลับมามีประวัติชำระดีอีกครั้ง
“ระยะเริ่มต้นจะรับซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์ กลุ่มธุรกิจทางการเงิน และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ครอบคลุมลูกหนี้ที่มียอดหนี้รวมไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย รวม 3.4 ล้านราย หรือ 4.76 ล้านบัญชี มูลหนี้ราว 122,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีลูกหนี้ที่เข้าข่ายช่วยเหลือ 2.36 ล้านบัญชี มูลหนี้ 62,400 ล้านบาท ซึ่งมอบให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) และบริษัทบริหารสินทรัพย์อารีย์ (Ari-AMC) เป็นผู้ดำเนินการหลัก”
สำหรับลูกหนี้ที่ถูกโอนเข้า AMC จะได้รับข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ เช่น ลดดอกเบี้ย ยกเว้นค่าธรรมเนียม หรือชำระบางส่วนเพื่อปิดบัญชี เพื่อให้ผ่อนภาระได้ตามศักยภาพ ขณะเดียวกัน SFIs จะมีมาตรการช่วยเหลือเฉพาะของแต่ละธนาคาร เช่น การลดเงินต้น ยกเว้นดอกเบี้ย หรือปิดบัญชีโดยตัดเป็นหนี้สูญสำหรับลูกหนี้ที่ไม่มีศักยภาพ เพื่อให้หลุดพ้นจากปัญหาหนี้เรื้อรัง
นายเอกนิติ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้เรื้อรังของประชาชน และต่อไปจะขยายการไปยังลูกหนี้ของผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) ภายใต้หลักการเดียวกัน เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ “รัฐบาลมั่นใจว่า โครงการนี้จะปลดล็อกปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นรูปธรรม ช่วยให้ประชาชนกลับมามีชีวิตทางการเงินที่มั่นคง และเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าอย่างยั่งยืนในระยะยาว”
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ลูกหนี้ที่โอนเข้า AMC จะได้รับ “รหัสพิเศษ (รหัส 16)” ในระบบเครดิตบูโร เพื่อให้กลับมาขอสินเชื่อใหม่ได้เร็วขึ้นภายใน 1–6 เดือน หากมีวินัยในการชำระหนี้ต่อเนื่อง โดยจะมีระบบ “อารีย์ สกอร์” ช่วยประเมินความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ธนาคารมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อใหม่
ขณะที่นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า โครงการนี้ไม่ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน แต่ใช้แหล่งเงินจากการลดอัตรานำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูสถาบันการเงิน (FIDF) จาก 0.46% เป็น 0.23% ที่เหลืออยู่มาบริหารโครงการ และเป็นมาตรการ “ทำครั้งเดียว” เพื่อไม่ให้กระทบวินัยทางการเงินในอนาคต
ส่วนนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า โครงการนี้เปลี่ยนแนวคิดการบริหารหนี้ครั้งใหญ่ โดยยึด “ลูกหนี้เป็นศูนย์กลาง” มองศักยภาพและความสามารถชำระหนี้รายบุคคล แทนการมองหนี้เป็นก้อนๆ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่ตรงจุดและยั่งยืน
Author
