ธปท.ยันแทรกแซงค่าบาทได้ แอ่นอกรับเศรษฐกิจไทยไตรมาส3ตกหลุม-

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ธปท.ยันแทรกแซงค่าบาทได้ แอ่นอกรับเศรษฐกิจไทยไตรมาส3ตกหลุม-

Date Time: 1 พ.ย. 2568 05:30 น.

Summary

ธปท.ยอมรับเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ตกหลุม ย้ำ “ธปท.”แทรกแซงดูแลค่าบาทได้ แม้มีข้อตกลงกับกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่ไม่ต้องการให้ทำบาทอ่อนและเปิดเผยการแทรกแซงค่าเงิน

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

 น.ส.ปราณี สุทธศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปีนี้ ว่า ภาพรวมชะลอลงจากไตรมาสก่อน แต่เริ่มปรับดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส โดยในเดือน ก.ย. เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากภาคการผลิตที่ทยอยกลับมาผลิตหลังจากการหยุดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในช่วงก่อน การส่งออกและรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับเพิ่มขึ้น โดยการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 19.2% จากระยะเดียวกันปีก่อน แม้ว่าจะมีการเริ่มเก็บภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ แล้ว 

 ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวดีขึ้น 5.8% จากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในประเทศชะลอลงทั้งการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนยังคงชะลอลง 0.8% จากเดือนก่อนหน้า ในเดือนก.ย. การลงทุนภาคเอกชนชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า 4.5% ขณะที่การใช้จ่ายรัฐบาลกลางลดลง 2.5% โดยส่วนหนึ่งการชะลอของการใช้จ่ายมาจากรายได้เกษตรกรหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน 17.1% จากทั้งราคาและผลผลิตสินค้าที่ลดลง


ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการ แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 จะปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยมาตรการภาครัฐมีส่วนช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปลายปี โดยได้รับคำตอบจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวว่าจะขยายตัวดีขึ้น ตามการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว โดยเห็นยอดจองล่วงหน้า โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวต่างชาติระยะไกล (long haul) และคาดว่ามาตรการภาครัฐ เช่น เที่ยวไทยคนละครึ่ง เที่ยวดีมีคืน จะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวของคนไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจการค้าขยายตัว ตามการเข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปี การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีมาตรการภาครัฐ เช่น คนละครึ่งพลัส ที่จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในขณะที่ภาคการผลิต และการก่อสร้างอาจจะได้รับผลดีน้อยกว่า

  ขณะที่ความเสี่ยงที่ต้องติดตามระยะต่อไปต้องติดตาม คือ การฟื้นตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม  2.ผลกระทบของมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่อาจจะมีการเก็บเพิ่ม หรือลดภาษีในสินค้าอื่นๆ ในอนาคต 3. พัฒนาการในภาคการท่องเที่ยว และ 4.ผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยธปท.ได้รวมผลจากโครงการคนละครึ่งพลัสเข้าไปในการประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ที่คาดจะโต 2.2% แล้ว

 ด้าน น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษก ธปท. กล่าวเพิ่มเติมว่า เราได้เห็นว่าโครงการคนละครึ่งพลัส มีผลในด้านทำให้บรรยากาศของการค้าขาย และความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น คงต้องจับตาดูมาตรการนี้และมาตรการรัฐที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆที่จะมีผลช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้หรือไม่ นอกจากนั้น ยังต้องจับตาข้อตกลงการเจรจาภาษีระหว่างไทยและสหรัฐฯ ว่าจะมีผลเพิ่มเติมกับเศรษฐกิจไทยอย่างไร ทั้งในทางลบและทางบวก

 ขณะเดียวกัน ย้ำคำตอบในส่วนของข้อตกลงที่ธปท.ทำกับกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ว่า ไม่มีผลทำให้ธปท.ไม่สามารถแทรกแซงหรือเข้าดูแลค่าเงินบาทได้ เพราะตามหลักการของธปท.การเข้าดูแลค่าเงินบาทจะทำเพื่อลดความผันผวนที่รุนแรงเกินไปอยู่แล้ว เพื่อลดผลกระทบของธุรกิจ และเศรษฐกิจไทย ไม่ได้ทำเพื่อให้เงินบาทแข็งขึ้นหรืออ่อนค่าลง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ