กสิกรเผยปี 69 ราคารถไฟฟ้ายังแข่งเดือด จีนหั่นราคาสู้ คนไทยมอง “ยังถูก” ซื้อไหว

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กสิกรเผยปี 69 ราคารถไฟฟ้ายังแข่งเดือด จีนหั่นราคาสู้ คนไทยมอง “ยังถูก” ซื้อไหว

Date Time: 30 ต.ค. 2568 18:45 น.

Video

จาก "รวยเงิน จนเวลา" สู่เกษียณ 35! ของพอล ภัทรพล? l Money Secret EP.13

Summary

วิจัยกสิกรฯ เผยธุรกิจยานยนต์ไทยแม้ตลาดรถยนต์ปีนี้คาดว่าจะโต 4.77% จากปีก่อน แต่ยังเจอศึกหนักจากสงครามหั่นราคา-ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ มีเพียงรถยนต์ไฟฟ้าที่คาดว่าช่วง 2 ปีจากนี้ยังเติบโตได้ดี

Latest


เศรษฐกิจไทยพึ่งพาอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนของไทยอย่างมาก หลายปีมานี้ยอดการส่งออกและยอดขายรถยนต์ชะลอลงมา แม้ปี 2568 คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ปีนี้จะโต 4.77% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ยังต้องเจอศึกหนักทั้งการแข่งขันหั่นราคาในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า และถือว่าธุรกิจยานยนต์ไทยกำลังเจอปัญหาหนักที่สุดในรอบ 64 ปี

ความหวังธุรกิจรถยนต์ฯ ไทย EV

แม้ธุรกิจรถยนต์ไทยต้องเจอปัญหาอีกมาก แต่หนึ่งความหวังของอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนของไทยอาจเป็นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพราะศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในช่วง 2 ปีข้างหน้า (2569-2570) ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ายังจะเติบโตต่อได้ เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังต้องการซื้อรถที่มีราคาถูก

“หทัยวัลคุ์ ตุงคะธีรกุล” เจ้าหน้าที่วิจัยอาวุโส ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า กลุ่มรถ EV ยังจะเผชิญกับการแข่งขันสูง เพราะแบรนด์รถ EV ที่ปีหน้าน่าจะยังใช้กลยุทธ์ “รถไฟฟ้าราคาเข้าถึงได้” ต่อไป โดยเฉพาะในกลุ่มราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคส่วนใหญ่ ส่งผลให้คนนิยมรถไฟฟ้าจีนมากขึ้น รวมถึงจะมีรุ่นรถยนต์ที่ใหม่ๆ ออกมาแข่งขันในตลาดมากขึ้น

ส่วนอีกปัจจัยสำคัญที่คนไทยจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทและแบตเตอรี่ต่ำกว่า 50kWh คือแม้มาตรการ EV 3.0 อาจสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 แต่ปี 2569 ผู้ซื้อสามารถเข้าร่วมมาตรการ EV 3.5 ได้

ธุรกิจรถยนต์ฯ ไทยเจอศึกหนัก “ภาษีทรัมป์-จีนบุก”

ดร. รุจิพันธ์ อัสสะรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยว่า อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนไทยเจอความท้าทายสูงสุดในรอบ 64 ปี นับตั้งแต่ปี 2504 จาก 1) นโยบายการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกดดันเรื่องการส่งออกรถยนต์ไปสหรัฐฯ 2) การแข่งขันที่สูงขึ้นจากผู้เล่นหน้าใหม่อย่างประเทศจีนที่ใช้กลยุทธ์สงครามราคา

อย่างแรกการแข่งขันในตลาดโลกจะรุนแรงขึ้น แม้ผลกระทบทางตรงจากมาตรการภาษีนำเข้า Section 232 ต่อไทยจะไม่มากเพราะมีสัดส่วนส่งออกรถยนต์ไปสหรัฐฯ น้อย แต่เมื่อมีมาตรการภาษีฯ ผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อาจกระจายส่งออกไปตลาดอื่นมากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ จึงอาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อส่งออกรถยนต์ไทยไปตลาดโลก แต่มาตรการภาษีนำเข้า Section 232 กระทบโดยตรงต่อการส่งออกชิ้นส่วนไทยไปสหรัฐฯ (ซึ่งมีสัดส่วนราว 26% ของมูลค่าส่งออกชิ้นส่วนไทย)

ทั้งนี้ การรุกตลาดของค่ายรถจีนผ่านสงครามราคาไปทั่วโลก ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทยทั้งภาคการผลิตและบริการ หลังจากค่ายรถหลักเดิมสูญเสียส่วนแบ่งในไทยและตลาดโลก เนื่องจากผู้บริโภคหันมานิยมรถไฟฟ้าจีนมากขึ้น

อย่างไรก็ตามต้องรอติดตามดีลการเจรจามาตรการภาษีฯ ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ว่าจะมีการปรับลดภาษีส่วนไหนบ้าง จะมีธุรกิจรถยนต์ไทยหรือไม่

จากปัจจัยทั้งหมดนี้ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรถยนต์ไทย โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศปี 68 จะอยู่ที่ 600,000 คัน เพิ่มขึ้น 4.77%YoY ส่วนหนึ่งเพราะสถานการณ์การให้สินเชื่อรถยนต์ผ่อนคลายปรับตัวดีขึ้นและราคารถถูกลง ส่วนปี 2569 ตลาดรถยนต์ไทยคาดว่าจะมีการปรับตัวที่ดี แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ตัวเลขการเติบโตได้อย่างชัดเจน


ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ