“อนุทิน” เร่งเดินหน้าโซลาร์ชุมชน ลดค่าไฟฟ้า 40-80 สต. ให้ 1.2 ล้านครัวเรือนทั่วไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน แถลงข่าวภายหลังประชุมหารือ เรื่อง “โครงการไฟฟ้าชุมชน ลดค่าไฟให้ประชาชน” โดยนายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาลเตรียมผลักดันโครงการไฟฟ้าชุมชนเพื่อช่วยลดค่าไฟและต้นทุนการดำรงชีพของประชาชนทั่วประเทศ ตามที่กระทรวงพลังงานได้เสนอโครงการไฟฟ้าชุมชน ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) กระจายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยดำเนินการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน และกระทรวงการคลัง

ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการโซลาร์สูบน้ำ เพื่อสนับสนุนระบบชลประทานและประปาหมู่บ้านทั่วประเทศ ช่วยลดต้นทุนการผลิตน้ำประปา และลดค่าใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคของประชาชน พร้อมทั้งกระจายการลงทุนสู่ท้องถิ่น สอดคล้องกับนโยบาย “ควิก บิ๊กวิน” (Quick Big Win) ที่มุ่งสร้างผลลัพธ์เชิงรูปธรรมให้กับประชาชนในระยะสั้น

ด้านนายอรรถพล กล่าวว่า จะเสนอโครงการด้านไฟฟ้าที่จะลดค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันที่ 27 ต.ค. และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ต.ค.นี้ โดยจะใช้งบประมาณจากกองทุนพลังงาน 500-600 ล้านบาท โดย 1.โครงการไฟฟ้าชุมชน (โซลาร์เพื่อชุมชน) จะกระจายเป็นโครงการย่อยในแต่ละชุมชน ขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ต่อชุมชน หรืออาจเป็น 5 หรือ 8 เมกะวัตต์แล้วแต่ชุมชน โดย กฟภ.จะรับผิดชอบการขนส่งไฟฟ้าและจัดให้มีราคาพิเศษแก่ชุมชน สามารถลดค่าไฟให้ประชาชนในพื้นที่ที่เข้าโครงการได้ 40-80 สตางค์ต่อหน่วย โดยจะดำเนินการทั้งหมด 1,500 เมกะวัตต์ ได้รับประโยชน์ 1.2 ล้านครัวเรือน และจะทำให้มีมูลค่าการลงทุนในโซลาร์ฟาร์ม 30,000 ล้านบาท และลดคาร์บอนได้ 3 ล้านตันต่อปี

2.โครงการสูบน้ำเพื่อเกษตรกรและชุมชน มุ่งเน้นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการสูบน้ำเพื่อเกษตรกรรมและประปาหมู่บ้าน จะช่วยลดต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการครองชีพของประชาชน พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ มีเป้าหมายการดำเนินการ 200 แห่ง ประปาหมู่บ้าน ประปาชุมชน 5,000 แห่ง ได้รับประโยชน์ 700,000 ครัวเรือน ลดคาร์บอนได้ 200,000-300,000 ตันต่อปี สำหรับโครงการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านอยู่อาศัย รอประกาศจากกรมสรรพสามิตออกมาเพื่อบังคับใช้ เพื่อให้ลดภาษีได้ตามที่ ครม.เคยอนุมัติไว้

ส่วนค่าไฟฟ้าในรอบถัดไป เดือน ม.ค.-เม.ย. 2569 รมว.พลังงาน กล่าวว่า กำลังเร่งศึกษาปัจจัยต้นทุนหลายด้าน จะตรึงไว้ไม่ให้สูงกว่ารอบปัจจุบัน 3.94 บาทต่อหน่วย ส่วนจะลดได้หรือไม่อยู่ระหว่างการศึกษา ด้านผลกระทบจากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย นายอรรถพล กล่าวว่า เบื้องต้นไม่มีเอกชนไทยรายใดที่มีสัญญาซื้อขายน้ำมันกับบริษัทรัสเซีย แม้เหตุการณ์นี้จะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นมากในระยะสั้น แต่ยังตรึงราคาดีเซลที่ขายในไทยไม่ให้เกิน 32 บาทต่อลิตร

นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากกรณีสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย กบน.จึงมีมติให้ปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันของน้ำมันดีเซลลง 70 สตางค์ (สต.) ต่อลิตร และน้ำมันเบนซินลง 50 สต.ต่อลิตร เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ปรับเพิ่มขึ้น แม้ตลาดโลกจะขยับขึ้นต่อเนื่อง โดยตลอดเดือน ต.ค.นี้ กองทุนน้ำมันได้เข้ามาดูแลราคาน้ำมัน โดยปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลรวม 1 บาทต่อลิตร และเบนซินรวม 80 ส.ต.ต่อลิตร