คลังปรับขั้นตอนเบิกจ่ายงบ เร่งอัดฉีดเงิน 4 ล้านล้านบาทปลุกเศรษฐกิจ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

คลังปรับขั้นตอนเบิกจ่ายงบ เร่งอัดฉีดเงิน 4 ล้านล้านบาทปลุกเศรษฐกิจ

Date Time: 24 ต.ค. 2568 07:30 น.

Summary

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ร่วมกับคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เร่งปรับปรุงกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อให้เม็ดเงินไหลสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะปีงบประมาณ 69 ซึ่งมีงบประมาณทั้งงบรายจ่ายประจำ งบลงทุน และงบเหลื่อมปี รวมกว่า 4 ล้านล้านบาท มาตรการสำคัญคือการลดระยะเวลาการเผยแพร่ร่าง TOR และเอกสาร e-bidding (เช่น กรณีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาทให้อยู่ในดุลพินิจหน่วยงาน, เกิน 500,000–100 ล้านบาทเผยแพร่ไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ, เกิน 100 ล้านบาทไม่น้อยกว่า 20 วันทำการ) อนุญาตให้ดำเนินการต่อเมื่อมีผู้เสนอเพียงรายเดียวหากคณะกรรมการเห็นสมควร และกำหนดระยะเวลาการตรวจรับพัสดุเพื่อลดความล่าช้า เช่น สัญญาที่มีงวดงานเดียวให้ตรวจรับภายใน 5 วันทำการ หลังส่งมอบ; งานจ้างก่อสร้างแบบราคาต่อหน่วยค่างานไม่เกิน 30 ล้านบาทให้ตรวจรับรายงวดภายใน 4 วัน; ไม่เกิน 60 ล้านบาทภายใน 8 วัน หากจำเป็นสามารถขอขยายเวลาต่อหัวหน้าหน่วยงานได้ การกำหนดกรอบเวลาตรวจรับมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความคล่องตัว โปร่งใส และประสิทธิภาพในการบริหารงบประมาณของรัฐ ตลอดจนลดภาระให้คู่สัญญาภาคเอกชนด้วย

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลาง เร่งปรับปรุงกระบวนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เม็ดเงินไหลลงสู่ระบบเศรษฐกิจให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปีงบประมาณ 69 มีเงินงบประมาณทั้งงบรายจ่ายประจำปี งบลงทุน และงบเหลื่อมปี รวมกว่า 4 ล้านล้านบาท


ทั้งนี้ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อให้การเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเกิดความคล่องตัว รวดเร็ว และสอดคล้องกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมีสาระสำคัญคือ


1. หน่วยงานสามารถลดระยะเวลาการเผยแพร่ร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธี e-bidding (TOR) รวมถึงการจ้างที่ปรึกษาหรือการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างให้สั้นลง เช่น วงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐนั้นๆ กรณีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท ให้เผยแพร่ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ และวงเงินเกินกว่า 100 ล้านบาท ให้เผยแพร่ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 20 วันทำการ เป็นต้น


2. กรณีที่มีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว หรือยื่นหลายรายแต่ถูกต้องตามเงื่อนไขเพียงรายเดียว หากคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์พิจารณาแล้วสมควรที่จะดำเนินการต่อไป ก็สามารถกระทำได้


3. ปัญหาที่สำคัญประการหนึ่งของการจัดซื้อจัดจ้างคือการที่ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ปี 2560 ไม่ได้กำหนดระยะเวลาการตรวจรับไว้อย่างชัดเจน ทำให้การตรวจรับหลายโครงการล่าช้า ส่งผลให้การเบิกจ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐล่าช้าตามไปด้วย ดังนั้น เพื่อให้หน่วยงานของรัฐมีแนวทางปฏิบัติในการตรวจรับพัสดุ สามารถเบิกจ่ายเงินให้กับคู่สัญญาได้อย่างรวดเร็ว และเป็นไปตามเป้าหมายตามมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินในแต่ละปี คณะกรรมการวินิจฉัยจึงได้กำหนดระยะเวลาในการตรวจรับพัสดุเพื่อให้หน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นงานจัดซื้อจัดจ้างหรืองานจ้างก่อสร้าง ทั้งนี้ หากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือผู้ควบคุมงานมีเหตุผลความจำเป็นไม่อาจดำเนินการได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ขอขยายระยะเวลาในการดำเนินการต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ


นางแพตริเซีย กล่าวต่อว่า ในบางกรณีหน่วยงานรัฐที่ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับภาคเอกชน เมื่องานแล้วเสร็จ แต่ไม่เร่งตรวจรับมอบงาน เพื่อส่งมอบงานตามสัญญา ส่งผลให้การเบิกจ่ายงบล่าช้าออกไป เช่น งานจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ใช่งานจ้างก่อสร้าง กรณีสัญญามีงวดงานเดียว ให้ตรวจรับพัสดุภายใน 5 วันทำการ หลังจากคู่สัญญาส่งมอบพัสดุ เป็นต้น ส่วนที่เป็นสัญญาจ้างก่อสร้าง ซึ่งมีทั้งจ้างแบบเหมารวม และงานจ้างแบบราคาต่อหน่วย ซึ่งในกรณีจ้างแบบราคาต่อหน่วย หากเป็นค่างานไม่เกิน 30 ล้านบาท ให้ผู้ควบคุมงาน ตรวจรับงานรายงวดภายใน 4 วัน และกรณีค่างานไม่เกิน 60 ล้านบาท ให้ตรวจรับงานรายงวดภายใน 8 วัน เป็นต้น


“การกำหนดระยะเวลาตรวจรับนอกจากจะช่วยเร่งรัดการเบิกจ่ายแล้ว ยังถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ปฏิรูปกระบวนการตรวจรับงานของภาครัฐให้มีความโปร่งใส เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสัญญาให้มีมาตรฐานและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงบประมาณของประเทศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังช่วยสร้างความเป็นธรรมและลดภาระให้กับคู่ค้าภาครัฐอีกด้วย”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ