
นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับปรุงกฎหมายตลาดทุนว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบ คาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน 4 เดือน ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีกฎหมายหลายฉบับแล้ว และพร้อมให้ตลาดหลักทรัพย์ฯดำเนินการ อีกทั้งนายกรัฐมนตรียินดีที่จะปลดล็อกให้ และจะหารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ด้วย สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลตั้งใจทำงานเรื่องนี้จริง
"การสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนไทยในระยะยาว จำเป็นต้องเริ่มจากการบังคับใช้กฎหมายให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ, สำนักงาน ก.ล.ต., สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), ตำรวจและอัยการ ควรตระหนักว่า คดีทุจริตในตลาดทุนส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อระบบเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ"
นายกิติพงศ์ กล่าวว่า กระบวนการของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เร็วพอสมควร แต่ในชั้นสอบสวนของตำรวจ ยังล่าช้า หากแก้กฎหมายให้ ก.ล.ต.มีอำนาจสอบสวนและฟ้องร้องบางกรณีได้โดยตรง จะลดเวลาจากเฉลี่ย 2–3 ปี เหลือ 12–18 เดือน หรืออย่างมาก 2 ปี ซึ่งจะทำให้ผู้กระทำความผิดเกรงกลัวมากขึ้น รวมถึงการใช้อำนาจเบื้องต้นของ ปปง.และดีเอสไอ ในขั้นตอนการยึดและอายัดทรัพย์ตั้งแต่ต้น เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและลดความเสียหายทางการเงิน ถือเป็นการเสริมการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และยับยั้งการกระทำซ้ำได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมออกกฎเกณฑ์ให้กรรมการตรวจสอบของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ต้องเปิดเผยข้อมูลงบการเงินหรือรายงานให้ตลาดหลักทรัพย์ฯทราบทันที ภายหลังผู้ตรวจสอบบัญชีส่งงบให้กรรมการตรวจสอบแล้ว โดยจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในเดือน ต.ค.นี้ และเสนอให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาอนุมัติต่อไป คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 69
ส่วนความคืบหน้าโครงการส่งเสริมการออมและการลงทุนในหุ้นระยะยาว (TISA) โดยให้สิทธิประโยชน์ภาษีแก่ผู้ลงทุน เพื่อเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้น และสร้างวัฒนธรรมการออมนั้น นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเห็นด้วยในหลักการ แต่อาจต้องทำรายละเอียดเพิ่มเติม น่าจะบังคับใช้ต้นปี 69