รัฐลุย Quick Big Win พลังงาน “อนุทิน”สั่งเร่ง 3 โครงการเห็นผลทันทีในปีนี้

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธาน ได้เห็นชอบแผนงานภายใต้ นโยบาย Quick Big Win กระทรวงพลังงาน ซึ่งจะนำไปสู่การลดค่าครองชีพประชาชน สร้างรายได้ให้ชุมชน และเตรียมความพร้อมด้านพลังงานให้กับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะมาลงทุนในไทย โดยเชิญผู้ว่าการ 3 การไฟฟ้า คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เข้าร่วม เพื่อนำนโยบายไปช่วยกันขับเคลื่อนได้ทันที

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบโครงการ Quick Big Win ด้านพลังงาน 3 มาตรการ 9 แผนงาน/โครงการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำให้เร่งดำเนินการ 3 โครงการภายในปีนี้ คือ โซลาร์ฟาร์มชุมชน โซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร และส่งเสริมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) บ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งช่วยเหลือประชาชนได้จริง โดยเฉพาะลดรายจ่าย สร้างรายได้ รวมถึงมาตรการคาร์บอนเครดิตเพื่อส่งเสริมการลดโลกร้อน และสร้างรายได้ให้ประชาชนในชุมชนต่างๆ     

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มาตรการพลังงาน ตามนโยบาย Quick Big Win ที่จะเสนอเข้าครม.สัปดาห์หน้า ประกอบด้วย 3 มาตรการ 9 แผนงาน/โครงการ สร้างผลประโยชน์ 1,465,378 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 39,761 คน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 29.446 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี มีค่าใช้จ่ายแก่ภาครัฐ  131,864 ล้านบาท

โดยมาตรการแรก โครงการโซลาร์ภาคประชาชน ประกอบด้วย 1.โซลาร์ฟาร์มชุมชน ผลประโยชน์เศรษฐกิจ 30,000 ล้านบาท จ้างงาน 1,785 คน ครัวเรือนได้ประโยชน์ 410.4 ล้านบาทต่อปี 2.โซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร 50 ระบบแรก ผลประโยชน์ 12,100 ล้านบาทต่อปี เกษตรกรประหยัดค่าไฟ 1,500 บาท/ไร่/ปี เพิ่มรายได้ 5,800 บาท/ไร่/ปี ระยะต่อมาขยายเป็น 1,150 ระบบ ครอบคลุม 23,000 ครัวเรือน จ้างงาน 13,800 คน 3.ส่งเสริมติดตั้ง Solar Rooftop ในบ้านอยู่อาศัย ด้วยมาตรการภาษี รัฐสูญเสีย 5,166.24 ล้านบาท ผลประโยชน์เศรษฐกิจ 20,250 ล้านบาท จ้างงาน 450 คน  4.โซลาร์ลอยน้ำ ของ กฟผ. ลงทุน 53,368 ล้านบาท ผลประโยชน์เศรษฐกิจ 140,440 ล้านบาท จ้างงาน 450 คน  5.ส่งเสริมระบบผลิตไฟฟ้าสำหรับหน่วยงานรัฐ ลงทุน 9,000 ล้านบาท ผลประโยชน์ 77,522 ล้านบาท หน่วยงานรัฐใช้ไฟฟ้าโซลาร์ 16,600 ล้านหน่วยต่อปี

มาตรการ 2 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพลังงานรองรับอุตสาหกรรม ได้แก่ 1.เร่งรัดซื้อขายไฟฟ้าสะอาดโดยตรง (Direct PPA) ระหว่างผู้ผลิตและ Data Center ปริมาณเป้าหมายไม่เกิน 2,000 เมกะวัตต์ ส่งเสริมการลงทุนปรับปรุงระบบโครงข่ายไฟฟ้า EEC 37,500 ล้านบาท กระตุ้นเงินลงทุน 65,000 ล้านบาท ลดปล่อยก๊าซ 1.66 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี จ้างงาน 3,094 คน  2.พัฒนาระบบส่งจำหน่ายไฟฟ้า EEC รองรับ Data Center  3,817.6 เมกะวัตต์ ลงทุน 33,500 ล้านบาท ผลประโยชน์ 580,000 ล้านบาท จ้างงาน 4,580 คน 

ขณะที่มาตรการ 3 คือ มาตรการสร้างความยั่งยืนระยะยาวสู่ Net Zero 2050 เช่น ศึกษาประเมินศักยภาพกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในอ่าวไทยตอนบน