
ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนก.ย. อยู่ที่ระดับ 87.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 86.4 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 7 เดือน หรือเมื่อเทียบกับเดือนก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นได้รวดเร็ว ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน เอื้อต่อการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ดำเนินไปต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ โดยเอสเอ็มอี ยังสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวกขึ้น หลังจากที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สามารถค้ำประกันสินเชื่อให้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ให้เอสเอ็มอีได้ ส่งผลให้สภาพคล่องของเอสเอ็มอีดีขึ้น
“การส่งออกสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร อิเล็กทรอนิกส์ ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดประเทศ มาเลเซีย เวียดนาม ไต้หวัน รวมถึงยอดขายยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ภายในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ได้แรงหนุนจากงาน “BIG Motor Sale 2025” โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล”
สำหรับดัชนีอุตสาหกรรม คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยอยู่ที่ระดับ 91.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 88.9 เป็นผลมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ โครงการ “คนละครึ่งพลัส” การจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 วันที่ 9-20 ธ.ค.นี้ จะช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว และส่งเสริมการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น คาดว่าเศรษฐกิจในประเทศจะขยายตัวต่อเนื่องจากแรงหนุนของเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2569
“การปิดด่านชายแดนกัมพูชา และด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดีที่ยืดเยื้อ ยังส่งผลให้มูลค่าการค้าชายแดนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเดือนส.ค. มูลค่าการค้าไทยกับเมียนมา ลดลงเหลือ 13,827 ล้านบาท หดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20% เช่นเดียวกับการค้ากับกัมพูชา ลดเหลือเพียง 10 ล้านบาทต่อเดือน ส.อ.ท.ได้มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ อาทิ ให้ภาครัฐออกมาตรการส่งเสริมการใช้สินค้า Made in Thailand, ในส่วนของมาตรการลดต้นทุนด้านพลังงานและไฟฟ้า ขอเสนอให้ทบทวนอัตราค่าไฟฟ้า, ปรับลดวงเงินประกันการใช้ไฟฟ้าเหลือ 0.5 เท่า สำหรับผู้มีประวัติการชำระค่าไฟตามกำหนด”