
เกาะสมุยยังคงเป็นทำเลที่น่าจับตามอง ในฐานะ "จุดหมายปลายทางระดับโลก" เพราะขณะนี้ ไม่ใช่เพียง แค่เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว แต่กำลังกลายเป็น "สมรภูมิการลงทุน" ของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะชาวยุโรป รัสเซีย และจีน ที่แห่เข้ามาจับจองคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศหรู จนส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์สมุยกลับมาคึกคักอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“ภัทรชัย ทวีวงศ์” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดอสังหาฯ สมุยกลับมาร้อนแรง โดยมีทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศเปิดใหม่จำนวนมาก
โดยเฉพาะในปี 2568 นี้ คาดว่าจะเป็นปีที่มีการเปิดขายบ้านพักตากอากาศใหม่ สูงสุดในรอบ 15 ปี
ครึ่งแรกปี 2568 สมุยมีคอนโดที่ขายอยู่เพียง 3 โครงการ รวม 876 ยูนิต มูลค่า 3,661 ล้านบาท กระจุกตัวในทำเลทองอย่างหาดเฉวง–บ่อผุด และหาดละไม ซึ่งดึงดูดทั้งนักลงทุนและนักท่องเที่ยว
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดใหม่เปิดตัวที่บ่อผุด จำนวน 218 ยูนิต โดยผู้พัฒนาจีน ซึ่งได้รับการตอบรับล้นหลาม ขายไปแล้วกว่า 72.93% และมีกำลังซื้อต่างชาติ "เหมาทั้งอาคาร" ขณะที่บางโครงการปิดการขายหมดภายในเวลาเพียง 9 เดือน
ราคาคอนโดในสมุยปัจจุบันอยู่ที่ 60,000–80,000 บาท/ตร.ม. แต่บางโครงการแตะถึง 200,000 บาท/ตร.ม. สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่ง และศักยภาพการลงทุนที่ยังเติบโตได้อีกมาก
ในข้อมูลชุดเดียวกัน ยังพบว่า ตลาดวิลล่าสมุยยิ่งคึกคักไม่แพ้กัน ครึ่งแรกปี 2568 มีบ้านพักตากอากาศขายอยู่ในตลาดกว่า 597 ยูนิต มูลค่า 14,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.56% จากครึ่งปีก่อน โดยเฉพาะในทำเลบ่อผุด–เฉวง ที่มียอดขายสูงสุดถึง 67.91%
ปรากฏการณ์ที่น่าจับตาคือ บางโครงการแบบ Leasehold ขายหมดทั้ง 46 ยูนิต ภายในเวลาแค่ 2 เดือน สะท้อนถึงความร้อนแรงและแรงซื้อจากต่างชาติที่ยังไม่หยุด
ข้อมูลที่สำคัญของคอลลิเออร์สพบว่า ผู้ซื้ออสังหาฯ บนเกาะสมุยกว่า 85–90% เป็นต่างชาติ โดยมากกว่า 50% มาจากยุโรป รองลงมาคือ รัสเซีย อิสราเอล จีน ออสเตรเลีย สาธารณรัฐเช็ก และฝรั่งเศส ขณะที่กำลังซื้อคนไทยมีเพียง 10–15% ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการและผู้ประกอบอาชีพอิสระ
สิ่งที่เกิดขึ้นในสมุยสะท้อนภาพตรงกันข้ามกับตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมของไทย ที่ยังเผชิญภาวะเหนื่อยยากจากต้นทุนสูงและกำลังซื้อในประเทศที่ยังไม่ฟื้น แต่ทำเลท่องเที่ยวอย่างสมุยกลับยังคงเป็น "แม่เหล็ก" ดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก
ผู้พัฒนารายใหญ่ เช่น บมจ. ศุภาลัย ก็กำลังเข้ามาจับตลาดบ้านพักตากอากาศสุดหรูริมชายหาด ราคา 17.59–26.59 ล้านบาทต่อยูนิต จำนวน 8 ยูนิต ตอกย้ำศักยภาพของเกาะสมุยว่าไม่ใช่แค่แหล่งพักผ่อน แต่คือ ทำเลทองระดับโลก ที่สร้างผลตอบแทนได้จริง
“ ตลาดคอนโดฯและบ้านพักตากอากาศของสมุย กลายเป็นหนึ่งในแหล่งลงทุนที่น่าสนใจที่สุดของไทย เนื่องจากราคาขายที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับราคาอสังหาฯในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ของประเทศ และคาดว่าความร้อนแรงของตลาดจะยังคงต่อเนื่องในปีต่อ ๆ ไป ”
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney