คุมส่งออก “สินค้าสองทาง”

วันที่ 1 ม.ค.69 เป็นต้นไป กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จะบังคับใช้ “มาตรการใบอนุญาตส่งออก” (DUI Licensing) สินค้าที่ใช้ผลิตได้ทั้งสินค้าปกติ และใช้เป็นส่วนประกอบในอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง (WMD) หรือ “สินค้าสองทาง” (DUI) ในหมวด 0 ที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ จากทั้งหมด 10 หมวด

ส่งผลให้ผู้ส่งออกจากไทยในสินค้าหมวด 0 ทั้ง 41 รายการ ต้องตรวจสอบว่าสินค้าของตน เป็น DUI หมวด 0 หรือไม่ ผ่านระบบ e-Classification ที่ www.etcwmd.dft.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้

หากเป็น DUI และมีคุณสมบัตินำไปทำอาวุธทำลายล้างสูงได้ (WMD) ต้องยื่นขออนุญาตผ่านระบบ e-DUI Licensing ตั้งแต่เดือน ธ.ค.นี้ พร้อมแนบเอกสาร เช่น หนังสือรับรองการใช้สุดท้าย เอกสารการซื้อขายสินค้า อย่างไรก็ตาม หากเป็น DUI แต่ไม่มีคุณสมบัติ ก็ไม่ต้องขออนุญาต ส่งออกได้ตามปกติ

มาตรการดังกล่าว ดำเนินการภายใต้ข้อมติ “คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ” (UNSC) 1540 ที่สมาชิกให้การรับรองเมื่อวันที่ 28 เม.ย.47 เพื่อป้องกันการแพร่ขยาย WMD

โดยสมาชิกทุกประเทศต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้องค์กรที่ไม่ใช่รัฐ และผู้ก่อการร้ายได้รับอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธชีวภาพ อาวุธเคมี และระบบนำส่งของอาวุธเหล่านั้น ปัจจุบัน สมาชิก โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงสิงคโปร์ มาเลเซีย ใช้มาตรการควบคุมส่งออกแล้ว

ในส่วนของไทย ได้ออก พ.ร.บ.การควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ.2562 และหนึ่งในสาระสำคัญ คือ กำหนดสินค้าที่ต้องขออนุญาต หรือต้องมีการรับรองว่าสินค้านั้นไม่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยาย WMD

นำมาซึ่งการกำหนดสินค้า DUI 10 หมวด 1,775 สินค้า ที่ต้องขออนุญาตส่งออก ซึ่งปี 67 ไทยส่งออกทั้ง 10 หมวดสูงถึง 3.51 ล้านล้านบาท หรือ 30% ของยอดส่งออกรวม ได้แก่

หมวด 0 เช่น เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แขนกล ยูเรเนียมธรรมชาติ, หมวด 1 วัสดุ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง, หมวด 2 การแปรรูปวัสดุ, หมวด 3 อิเล็กทรอนิกส์, หมวด 4 คอมพิวเตอร์, หมวด 5 โทรคมนาคมและการรักษาความปลอดภัยข้อมูล, หมวด 6 เซ็นเซอร์และเลเซอร์, หมวด 7 ระบบนำร่องและระบบอิเล็กทรอนิกส์, หมวด 8 ยานพาหนะ อุปกรณ์ทางทะเล, หมวด 9 การบิน อวกาศ และการขับดัน เช่น โดรน

จากนั้นช่วงไตรมาส 2 ปี 69 จะขยายมาตรการขออนุญาตส่งออกไปยังหมวดอื่น โดยเฉพาะหมวด 7-9 เพราะมีสินค้าจำนวนมากที่ใช้ในปฏิบัติการทางทหาร เช่น โดรน นอกจากนี้ ยังเฝ้าระวังเพิ่มเติมอีก 50 สินค้า ที่อาจใช้ผลิต WMD ได้อีก ซึ่งเป็นความกังวลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และหลายชาติขอให้ไทยเพิ่มความเข้มงวดควบคุมส่งออกด้วย เช่น ชิ้นส่วนเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบิน โดรน ฯลฯ

การดำเนินการทั้งหมดนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้สินค้าไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติว่าไทยไม่สนับสนุนสงคราม!!

 ฟันนี่เอส

คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม