ตลาดรถยังไม่ฟื้น ยอดผลิต ส.ค. ลดลง 6.11% ชงตั้งกองทุนปลุกยอดขาย

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ตลาดรถยังไม่ฟื้น ยอดผลิต ส.ค. ลดลง 6.11% ชงตั้งกองทุนปลุกยอดขาย

Date Time: 24 ก.ย. 2568 08:00 น.

Summary

โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ระบุยอดผลิตรถยนต์ของไทยในเดือนส.ค. อยู่ที่ 112,366 คัน ลดลง 6.11% เมื่อเทียบปีก่อน เนื่องจากการผลิตเพื่อส่งออกหดตัว ส่วนยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนส.ค. ลดลง 17.30% ท่ามกลางความเข้มงวดด้านมาตรฐานความปลอดภัยและการปล่อยก๊าซของประเทศคู่ค้า ขณะที่การผลิตและยอดขายในประเทศปรับเพิ่มโดยมีการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า และเสนอให้จัดตั้งกองทุนค้ำประกันวงเงิน 2,000–5,000 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นการขายรถกระบะและลดผลกระทบจากการยึดรถขายขาดทุน

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

             นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ของประเทศไทยอยู่ที่ 112,366 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 6.11% จากการผลิตเพื่อส่งออกที่ลดลง 10.67% โดยผลิตได้เพียง 73,956 คัน

              “เนื่องจากค่ายรถยนต์หลายๆ ค่าย ได้ยกเลิกการผลิตรถยนต์นั่งบางรุ่น เพราะความเข้มงวดในการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยขับในด้านความปลอดภัยของประเทศคู่ค้า และความเข้มงวดในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ของประเทศคู่ค้า สอดคล้องกับยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือน ส.ค. อยู่ที่ 71,179 คัน ลดลงจากปีก่อน 17.30% จากการส่งออกรถกระบะใช้น้ำมันลดลง 14.65% และรถยนต์นั่งที่ใช้น้ำมันลดลง 35.09% เพราะการเข้มงวดในการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ของบางประเทศ”

            ดังนั้นจึงส่งผลให้การส่งออกรถยนต์ ในระยะ 8 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.) พบว่ามียอดผลิตเพื่อส่งออกอยู่ที่ 623,069 คัน ลดลงจากปีก่อน 9.24% ส่งผลให้ภาพรวมยอดผลิตรถยนต์ 8 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 947,697 คัน ลดลงจากปีก่อน 5.77%

                 ขณะที่การผลิตรถยนต์ เพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.11% โดยอยู่ที่ 38,410 คัน สอดคล้องกับ 8 เดือนของปีนี้ ยอดผลิตเพื่อขายในประเทศอยู่ที่ 324,628 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.69% จากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพื่อชดเชยอีวีที่นำเข้ามาขายในปี 2565-2566 สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศอยู่ที่ 47,622 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.38% จากการขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าที่มีถึง 9,246 คัน เพิ่มขึ้น 26.62%

             “รัฐบาลชุดใหม่ที่ได้แสดงความตั้งใจที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตมากขึ้น ผมจึงขอเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยขอให้ทำตามข้อเสนอของที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่เคยให้รัฐบาลชุดที่ผ่านมาจัดตั้งกองทุน 5,000 ล้านบาท เพื่อค้ำประกันผลขาดทุน จากการยึดรถกระบะแล้วขายขาดทุน โดยจ่ายผลขาดทุนตามจริง แต่ไม่เกินคันละ 50,000 บาท ให้กับสถาบันการเงิน แต่มีข้อแลกเปลี่ยนหรือเงื่อนไขว่า สถาบันการเงินต้องปล่อยกู้ให้มียอดขายรถกระบะมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างน้อย 30%”

               สำหรับเงินกองทุนจะมีวงเงิน 2,000 ล้านบาท หรือ 5,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของรัฐบาล ที่จะทำให้ค่ายรถยนต์สามารถขายรถกระบะเพิ่มขึ้นกี่หมื่นคันในแต่ละปี ซึ่งรัฐบาลจะจ่ายในอีก 2 ปีข้างหน้า เมื่อยึดรถกระบะมาแล้วและประมูลขายขาดทุนแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวจะทำให้บริษัทประกันภัยและพนักงานขายรถกระบะ รวมทั้งคนงานทำงานในบริษัทที่มีวงจรการผลิตรถยนต์ มีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังจะทำให้กลุ่มบริษัทรถยนต์ กล้าตัดสินใจลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต ก็จะเกิดการจ้างงานเพิ่ม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ