คุมข้าวโพดเผาไฟ-สินค้า2ทาง

นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.69 กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ เตรียมบังคับใช้ 2 มาตรการใหม่ ได้แก่ มาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลอดการเผาเพื่อลดมลพิษ PM 2.5 ข้ามพรมแดน และมาตรการใบอนุญาตส่งออกสินค้าที่ใช้เพื่อผลิตเป็นสินค้าปกติและใช้เป็นส่วนประกอบในอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง หรือสินค้าสองทาง (DUI) ที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ เพื่อสร้างความมั่นใจสินค้าไทยในเวทีโลก และยืนยันว่า ไทยไม่สนับสนุนการทำสงคราม

สำหรับการคุมนำเข้าข้าวโพดปลอดการเผานั้น ผู้นำเข้าต้องมีหลักฐานแสดงว่าข้าวโพดที่นำเข้าปลอดการเผาจริง ซึ่งแต่ละปีไทยผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4-5 ล้านตัน แต่ต้องการใช้ราว 9 ล้านตัน จึงต้องนำเข้าประมาณ 2 ล้านตัน จำนวนนี้กว่า 90% มาจากเมียนมา โดยมาตรการนี้จะบังคับใช้จนกระทั่งพ.ร.บ.อากาศสะอาด และกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ หากนำเข้าจากแหล่งที่มีการเผา 2 ครั้งแรกจะตักเตือน หากมีครั้งที่ 3 จะพักการขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าทันที

ส่วนภายหลังจาก พ.ร.บ.อากาศสะอาด และกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้แล้ว จะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ส่วนบทลงโทษยังคงเดิม อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา จากนั้นกระทรวงพาณิชย์จะนำมาออกประกาศ และจะเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.69

ขณะที่การคุมส่งออกสินค้าสองทางนั้น จะควบคุมทั้ง 10 หมวด กว่า 1,775 รายการ แต่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.69 จะเริ่มคุมหมวด 0 สินค้าที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ (วัสดุ สถานประกอบการ และอุปกรณ์) รวม 41 รายการก่อน ซึ่งปี 67 ไทยส่งออกหมวด 0 มูลค่า 437,000 ล้านบาท และไตรมาส 2 ปี 69 จะขยายไปยัง 7-9 ที่เป็นสินค้าระบบนำร่องและระบบอิเล็กทรอนิกส์การบิน, สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ทางทะเล และสินค้าการบิน อวกาศ และการขับดัน เช่น โดรน ฯลฯ โดยปี 67 ไทยส่งออกสินค้า 10 หมวด 3.15 ล้านล้านบาท หรือราว 30% ของมูลค่าการส่งออกของไทย

“ผู้ส่งออกต้องตรวจสอบว่าสินค้าของตนเป็น DUI หมวด 0 หรือไม่ ผ่านระบบ e-Classification ของกรมที่ www.etcwmd.dft.go.th หากเป็น DUI ต้องยื่นขออนุญาตส่งออกผ่านระบบ e-DUI Licensing พร้อมแนบเอกสารประกอบ โดยยื่นขออนุญาตได้ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 68 นอกจากนี้ ยังมีสินค้าเฝ้าระวังเพิ่มเติมอีก 50 รายการ ที่ประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่กังวลว่า อาจนำมาผลิตเป็นอาวุธทำลายล้างสูงได้อีก ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน และขอให้ไทยเพิ่มความเข้มงวดควบคุมส่งออก เช่น โดรน ที่ปัจจุบัน ใช้ในการปฏิบัติการทางทหาร และในการสู้รบมากขึ้น”