“อนุทิน”พบสมาคมธนาคารไทย “เอกนิติ”สั่งคลังตั้งทีมติดตามเงินเทาดูแลค่าบาท

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“อนุทิน”พบสมาคมธนาคารไทย “เอกนิติ”สั่งคลังตั้งทีมติดตามเงินเทาดูแลค่าบาท

Date Time: 23 ก.ย. 2568 18:00 น.

Summary

นายกฯอนุทิน นำทีมเศรษฐกิจ ถกสมาคมธนาคารไทย ขอช่วยเร่งแก้หนี้ประชาชน-เอสเอ็มอี-หนี้ครัวเรือน อัดฉีดสภาพคล่องปล่อยกู้เพิ่ม ด้านเอกนิติ ตั้งทีมคลายปมเชื่อมโยงเส้นเงินเทา ดูแลค่าเงินบาท

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เปิดเผยภายหลังการนำทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ หารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยว่า สมาคมทราบว่า รัฐบาลห่วงใยระบบการเงินและเศรษฐกิจประเทศ และขอความร่วมมือให้แก้ปัญหาหนี้สินประชาชน หนี้สินเอสเอ็มอี และหนี้ครัวเรือน นอกจากนั้น ยังขอความร่วมมือให้ผ่อนปรนและเร่งดำเนินการเพื่อให้มีสภาพคล่องในตลาดมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการเข้าไม่ถึงสินเชื่อของธุรกิจ และทำให้ธุรกิจมีช่องทางผลิตและขายสินค้ามากขึ้น 

นอกจากนั้น ยังรับฟังความเห็นของสมาคม และความกังวลต่างๆ และจะทำอย่างไรให้ธนาคารของไทยกลับเป็นผู้นำในอาเซียนได้อีกครั้ง

“ได้ขอความร่วมมือสมาคมผ่อนปรนการเข้าถึงสินเชื่อ อัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบให้มาก เพราะหากธุรกิจมีเงินเก่าอยู่ แต่เงินใหม่ไม่เข้า สุดท้ายเงินเก่าจะหายไป หากธนาคารวิเคราะห์ความเสี่ยงลูกค้าแล้ว ยังพอมีศักยภาพ ก็อยากให้ช่วย แต่เอสเอ็มอีจะอยู่แบบเดิมไม่ได้ ต้องเร่งปรับตัว เพราะเศรษฐกิจไทยมีปัญหาโครงสร้างอยู่มาก”

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะอยู่ 4 เดือนตามที่สัญญาไว้ การทำงานก็หวังให้เกิดผลระยะยาว และความยั่งยืน แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ และเร่งเพิ่มศักยภาพ โดยจะเร่งภาคท่องเที่ยวและบริการ, การแพทย์และสุขภาพ, เกษตรกรรม, ยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมไฮเทค

ด้านนายเอกนิติ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหามาก โดยเฉพาะเชิงโครงสร้าง สิ่งที่นายกฯให้นโยบายไว้ คือ ฟื้นเศรษฐกิจอย่างไรให้เร็ว และฟื้นให้ยั่งยืน โดยต้องฟื้นสั้น แต่ว่าให้มียาว ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน แก้ปัญหาเก่าที่ทำได้ 

“นโยบายนายกฯ คือ ทำให้เกิด Big Quick Win สร้างความยั่งยืนให้เศรษฐกิจ และเตรียมความพร้อมให้ประเทศ ทำให้มีเสถียรภาพ และเกิดความเชื่อมั่นกับต่างชาติ”

สำหรับค่าเงินบาท ที่จับตาว่าอาจเชื่อมโยงเงินสีเทานั้น เมื่อวันที่ 21 ก.ย.68 ได้ประสานกระทรวงการคลัง ให้ติดตามการเชื่อมโยงข้อมูลเงินทุนไหลเข้าและออกว่าผิดปกติหรือไม่ และมีเงินสีเทาหรือไม่ สมาคมธนาคารไทยฉายภาพเดียวกันว่า ค่าเงินมีหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ฯลฯ 

“ได้หารือให้ปลัดคลัง ตั้งทีมติดตามค่าเงินบาท และติดตามข้อมูลร่วมกัน เพราะต้องเชื่อมโยงกันว่า มาจากไหน เพื่อเกาให้ถูกที่คัน แก้ปัญหาให้ตรงจุด โดยหลังถวายสัตย์ 24 ก.ย.นี้ และแถลงนโยบายแล้ว ทีมนี้จะทำงานทันที”

ส่วนนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาท ที่จับตาว่ามีเงินสีเทาเอี่ยวด้วยนั้น ที่ประชุมได้หารือกันด้วย สิ่งที่ต้องเร่งทำ คือ ติดตามการเชื่อมโยงข้อมูลเงินทุนไหลเข้าและออกผิดปกติหรือไม่ให้ได้ ซึ่งการขับเคลื่อนของเงินทุน มีทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน รูปแบบที่เป็นธนาคาร และผ่านการค้าขาย ส่วนการปล่อยสินเชื่อนั้น สภาพคล่องในระบบมีมาก แต่ยังไม่ไหลไปถึงภาคธุรกิจ ซึ่งจะทำกลไกร่วมกันที่จะผลักให้สภาพคล่องเข้าไปในระบบมากขึ้น 

“การหารือวันนี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หรือในรอบ 58 ปี ที่นายกฯมาหาเอง พาทีมเศรษฐกิจมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เราไม่ได้ขออะไรเพิ่ม เพราะท่านเข้าใจอยู่แล้ว”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ