เหล็กไทยยังคงวิ่งสู้ฟัดเหล็กนำเข้า “นาวา” เชื่อมั่นรัฐบาลจะเฟ้นหามือดีกล้าร่วมรบกล้าปกป้อง

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เหล็กไทยยังคงวิ่งสู้ฟัดเหล็กนำเข้า “นาวา” เชื่อมั่นรัฐบาลจะเฟ้นหามือดีกล้าร่วมรบกล้าปกป้อง

Date Time: 17 ก.ย. 2568 10:00 น.

Summary

ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก และแกนนำ 10 สมาคมเหล็ก เผย อุตสาหกรรมเหล็กไทยยังคงได้รับผลกระทบรุนแรงมากจากสินค้านำเข้าทุ่มตลาด แต่ยังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่จะคัดสรรผู้บริหารซึ่งกล้าทั้งรบและปกป้องมาเป็นผู้นำในการต่อสู้ หากคัดคนที่ไม่กล้า ก็ย่อมแพ้เท่านั้น

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก และแกนนำ 10 สมาคมเหล็กซึ่งมีสมาชิกในอุตสาหกรรมและธุรกิจเหล็กกว่า 500 บริษัท เปิดเผยถึงสถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กโลก ว่าอยู่ในภาวะกำลังการผลิตล้นเหลือ (Overcapacity) กว่า 2,300 ล้านตันต่อปี แต่ความต้องการใช้เหล็กถดถอย (Sluggish Demand) เหลือเพียง 1,600 ล้านตันต่อปี จึงมีกำลังการผลิตเกินความต้องการใช้ 700 ล้านตันต่อปี


ประเทศผู้ผลิตเหล็กปริมาณมากสุดของโลก ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 คือ (1) จีน 594.5 ล้านตัน (2) อินเดีย 94.9 ล้านตัน (3) ญี่ปุ่น 47.5 ล้านตัน โดยจีนซึ่งความต้องการใช้เหล็กภายในประเทศหดตัว ได้ทุ่มส่งออกเหล็กไปยังประเทศที่อ่อนด้อยในการปกป้องการทุ่มตลาด ในปี 2567 จีนได้ส่งออกสินค้าเหล็กมากสุดเป็นประวัติการณ์ 117.06 ล้านตัน เพิ่มถึง +25.1% จากปี 2566 จนประเทศต่างๆ ทั่วโลกเปิดไต่สวนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping : AD) สินค้าเหล็กในปี 2567 มากขึ้นถึง 89 เคส เพิ่มเป็น 5 เท่าตัวของปี 2566


ดังนั้น สินค้าเหล็กจากจีนจึงไหลกระหน่ำมายังประเทศที่ยังล่าช้าในการดำเนินมาตรการและตามไม่ทันพฤติกรรมหลบเลี่ยง (Circumvention) ในปี 2568 นี้ยิ่งน่าห่วงมากขึ้น เฉพาะช่วง 8 เดือนแรก จีนได้ส่งออกสินค้าเหล็กรวม 77.5 ล้านตัน มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน +10% โดยประเทศที่ถูกเหล็กจีนทุ่มตลาดหนักสุด ได้แก่ 1. เวียดนาม 2. เกาหลีใต้ 3. ฟิลิปปินส์ 4. ไทย 5. อินโดนีเซีย ทั้งนี้ ประเภทสินค้าเหล็กที่จีนส่งออกมากสุด คือ เหล็กแผ่นรีดร้อน และเหล็กเคลือบ ซึ่งเฉพาะ 2 ประเภทหลักนี้รวมกัน คาดว่าปริมาณส่งออกจากจีนทั้งปีอาจมากถึงเกือบ 60 ล้านตัน


สถานะอุตสาหกรรมเหล็กไทย


ด้วยสงครามการค้าเหล็กโลกที่รุนแรงเสมือนคลื่นยักษ์ แต่มาตรการป้องกันของไทยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เรายังไม่สามารถสร้าง “รั้วสูง กำแพงหนา” ได้แข็งแรงและเร็วพอ ส่งผลให้ปริมาณนำสินค้าเหล็กเข้าประเทศไทยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบสามในสี่ของการบริโภคเหล็กของประเทศไทยในปีนี้ จนอุตสาหกรรมเหล็กซึ่งเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานสำคัญของประเทศตกอยู่ในภาวะยากลำบาก ทั้งที่อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศมีความจำเป็นต่อการสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ การบำรุงรักษาและสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ตลอดจนการป้องกันประเทศ หากประเทศไทยต้องพึ่งพาเหล็กนำเข้ามากเกินไป ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจแบบยั่งยืนและความมั่นคงแห่งชาติ ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทยปี 2568 น่าจะอยู่ระหว่าง 16.2 – 16.4 ล้านตัน คิดเป็นการใช้เหล็กเฉลี่ย 275 กิโลกรัมต่อประชากรไทยหนึ่งคน ถดถอย -2.5% จากสี่ปีก่อนซึ่งปริมาณใช้เหล็กของประเทศไทยเฉลี่ย 282 กิโลกรัมต่อประชากร


อุตสาหกรรมเหล็กไทยได้รับผลกระทบรุนแรงมาก่อนจากสินค้านำเข้าทุ่มตลาด และปัจจุบันหลายๆ อุตสาหกรรมของไทยกำลังได้รับผลกระทบจากสินค้านำเข้าทุ่มตลาดด้วยแล้ว จึงเน้นย้ำเห็นด้วยอย่างยิ่งกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ได้เรียกร้องมาตั้งแต่ต้นปี ให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาการทะลักเข้ามาของสินค้าต่างๆ จากต่างประเทศ โดยเร่งใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping : AD) มาตรการตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty : CVD) มาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยง (Anti-circumvention: AC) และมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguarding : SG) เพื่อให้การปกป้องผู้ประกอบการในประเทศไทยเป็นไปอย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ และรวดเร็ว


เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ประเทศไทยมุ่งพัฒนาไปในทิศทางอุตสาหกรรมก้าวหน้า ส.อ.ท.ขอให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และกระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาเข้มงวดส่งเสริมเฉพาะการจัดตั้งโรงงานเหล็กที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยและผลิตสินค้าเหล็กขั้นสูง หรือเหล็กที่ยังขาดแคลนกำลังการผลิตภายในประเทศเท่านั้น อย่าให้มีการนำโรงงานเทคโนโลยีเก่ามาเปิดเพิ่มในประเทศไทยอีก


ปัจจุบันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กของไทยกำลังเดินหน้าพัฒนาในด้าน (1) การควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน (2) การพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผลิตในประเทศไทยตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) ในด้านต่างๆ เช่น เหล็กคาร์บอนต่ำ เหล็กเพื่อโครงสร้างของพลังงานทางเลือก เหล็กเพื่อยานยนต์ไฟฟ้า (3) การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับปรุงกระบวนการผลิต การใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (4) การเน้นความได้เปรียบของเหล็กซึ่งเป็นวัสดุที่นำมาใช้ซ้ำหมุนเวียนได้ (Material Efficiency) ได้สูงสุดมากกว่า 97% โดยเน้นทั้งการนำมาใช้ซ้ำ การนำมาแปรรูปซ้ำ และการนำมาผลิตซ้ำ


มั่นใจรัฐบาลใหม่พร้อมร่วมสู้


มั่นใจว่านายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกุล และรัฐบาลชุดใหม่ จะเร่งเข้ามาดำเนินการหลายมาตรการที่กำลังไปในทิศทางที่พัฒนาขึ้น ตลอดจนริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ด้วย ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสงครามการค้าโลกที่รุนแรง รัฐบาลพึงคัดสรรผู้บริหารซึ่งกล้าทั้งรบและปกป้องมาสู้ หากคัดคนที่ไม่กล้ามา ก็ย่อมแพ้เท่านั้น


กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เข้มงวด ตรวจจับเหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อประโยชน์ของประชาชนผู้บริโภคสินค้าเหล็ก


กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร ตรวจจับและเรียกเก็บอากรทุ่มตลาด (AD) อากรหลบเลี่ยง (AC) สินค้านำเข้าอย่างเข้มงวด เพื่อการบังคับใช้มาตรการทางการค้า และประเทศชาติได้อากรครบถ้วน


กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน ดำเนินงานเชิงรุกโดยเร่งใช้มาตรการอย่างรวดเร็ว เท่าทันผู้นำเข้าซึ่งใช้วิธีการหลบเลี่ยงหลากหลายรูปแบบ ทั้งการสำแดงพิกัดศุลกากรอันเป็นเท็จ การแปลงหรือเจือส่วนผสมเพียงเล็กน้อยเพื่อหลบพิกัดศุลกากร การสำแดงชื่อโรงงานผู้ผลิตอันเป็นเท็จ เป็นต้น


ทั้งนี้ หากบางกรณีที่ผู้เสียหายเป็นอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งมีข้อจำกัด ก็คาดหวังว่ากรมการค้าต่างประเทศ อาจยื่นคำร้องเพื่อเริ่มดำเนินกระบวนการพิจารณาตอบโต้การทุ่มตลาด ไม่จำเป็นต้องรอให้อุตสาหกรรมภายในยื่นคำร้องเพียงหนทางเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ หากมีความจำเป็น ก็ต้องกล้าพิจารณาใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นด้วย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ