เปิดฉาก“ศุภจีโมเดล” เดิมพันใหม่ กระทรวงพาณิชย์ กับภารกิจรีแบรนด์ “การค้าไทย” ยุค ครม.อนุทิน

Economics

Thai Economics

Tag

เปิดฉาก“ศุภจีโมเดล” เดิมพันใหม่ กระทรวงพาณิชย์ กับภารกิจรีแบรนด์ “การค้าไทย” ยุค ครม.อนุทิน

Date Time: 9 ก.ย. 2568 09:54 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

จากดุสิตธานี สู่กระทรวงพาณิชย์ แกะโมเดล รัฐมนตรี “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” กับภารกิจรีแบรนด์การค้าไทย จุดเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของแม่ทัพหญิงแห่งวงการโรงแรมไทย สู่ “บันไดการเมือง”ที่อาจเพิ่งเริ่มต้น

Latest


การตัดสินใจครั้งสำคัญของ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ซีอีโอหญิงแกร่งแห่งเครือดุสิตธานี ในวัย 60 ปี สร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งวงการธุรกิจและการเมือง เมื่อชื่อของเธอถูกดึงขึ้นนั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ใน “ครม.อนุทิน 1”

การปรากฏตัวของเธอบนเส้นทางการเมืองครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็น “ดีลเหนือความคาดหมาย” ที่มีนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นผู้เจรจาด้วยตัวเอง


จุดเปลี่ยนจากธุรกิจโรงแรมสู่ สนามการเมือง

ย้อนไป แวดวงธุรกิจต่างรับรู้กันดีว่า การก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของเธอ หลังนั่งเก้าอี้มาเกือบ 10 ปี ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะวาระการทำงานสิ้นสุด หากแต่มี “แรงสั่นสะเทือนภายใน” จากความขัดแย้งของทายาทผู้ก่อตั้งเครือดุสิตธานีที่ปะทุขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาครั้งแล้วครั้งเล่า

ท่ามกลางบรรยากาศนี้เอง การตัดสินใจรับตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งนี้ จึงถูกมองว่าเป็นการเปลี่ยนเส้นทางชีวิตครั้งใหญ่ของหญิงแกร่งผู้ไม่เคยเดินในโลกการเมืองมาก่อน แต่กลับมี “เครดิต” ที่สังคมและวงการธุรกิจเชื่อมืออย่างมาก 

" ศุภจี สุธรรมพันธุ์ " หญิงแกร่งแห่งการรีแบรนด์

จากอดีตผู้บริหาร IBM ที่เติบโตมาจากสายเทคโนโลยี สู่การเป็น CEO ที่ “พลิกโฉม” ดุสิตธานีในปี 2559 ทำให้ภาพจำจากโรงแรมดั้งเดิมสู่เครือโรงแรมอินเตอร์ระดับโลก เธอวางกลยุทธ์ และทำงาน ผ่าน 3 แกนหลัก คือ  รีแบรนด์ – เทคโนโลยี – เครือข่ายระดับโลก

  • ปรับภาพลักษณ์แบรนด์โรงแรมไทยให้ทันสมัย
  • นำดิจิทัลเข้ามาเสริมประสบการณ์และการจัดการ
  • สร้างพันธมิตรและขยายธุรกิจสู่เวทีโลก

ผลลัพธ์ล่าสุด  คือ การเปิดตัวโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท กลางกรุงเทพฯ ซึ่งวันนี้ ได้กลายเป็นผลงาน “ชิ้นโบแดง” ที่ฝากชื่อไว้ ก่อนจะก้าวลงจากตำแหน่งเพียงไม่กี่วันก่อนหน้า 


โจทย์ใหม่ในกระทรวงพาณิชย์ของรัฐมนตรีศุภจี 

สำหรับกระทรวงพาณิชย์ นับเป็นกระทรวงเกรด A ที่มีบทบาท หน้าที่หลักในการ กำกับ ดูแล ส่งเสริม และพัฒนาด้านการพาณิชย์และเศรษฐกิจการค้า ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ขณะการค้าของไทยในวันนี้ไม่ต่างจากดุสิตธานีเมื่อ 10 ปีก่อน มีภาพจำเก่า ๆ และต้องการ “รีแบรนด์” อย่างเร่งด่วน หลายด้าน กลายเป็นโจทย์หินให้รัฐมนตรีมือใหม่แสดงฝีมือ 

  • การค้าภายใน: ราคาสินค้าอ่อนไหว ต้นทุนครัวเรือนสูง กระทรวงพาณิชย์ต้องหาสมดุลระหว่างการคุมราคากับการค้ำจุนผู้ประกอบการ เธอจะบาลานซ์อย่างไร ระหว่าง “กดราคาเพื่อผู้บริโภค” กับ “ไม่ให้ผู้ผลิต-ผู้ค้าเจ๊ง”
  • การค้าระหว่างประเทศ: ไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากสงครามการค้า มาตรการคาร์บอนของยุโรป และการแข่งขันดุเดือดในอาเซียน การเจรจา FTA ที่เดินหน้าอยู่หลายฉบับจึงเป็นภารกิจสำคัญ
  • ส่งออกไทยโตช้าเพราะพึ่งพาสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมแบบเดิม โจทย์คือการผลักดัน Value-added, Creative Economy, Soft Power
  • SME และดิจิทัลเทรด: ผู้ประกอบการไทยยังเข้าไม่ถึงตลาดโลกเต็มที่ การผลักดันอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนคือกุญแจที่จะเพิ่มศักยภาพการส่งออก
  • ทรัพย์สินทางปัญญา: Soft Power ของไทยยังถูกละเมิดซ้ำซาก แต่หากได้รับการคุ้มครองและต่อยอดเชิงพาณิชย์ จะเป็น “เกมเปลี่ยน” มูลค่าหลายแสนล้านบาท


แกะ “สูตรดุสิตธานี” สู่การรีแบรนด์การค้าไทย

หาก “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” เลือกนำวิธีคิดแบบเดียวกับที่เคยใช้ในการพลิกโฉมเครือดุสิตธานีมาประยุกต์กับภารกิจใหม่ในกระทรวงพาณิชย์ สิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือการสร้าง “กรอบการรีแบรนด์การค้าไทย” ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก

1. รีแบรนด์สินค้าไทยแทนที่จะปล่อยให้สินค้าเกษตรหรืออุตสาหกรรมไทยถูกมองว่าเป็นเพียง “ของราคาถูก” บนตลาดโลก ศุภจีอาจพยายามยกระดับด้วยการใส่แบรนด์และเรื่องราว เช่นเดียวกับที่เธอเคยทำให้โรงแรมดุสิตธานีไม่ได้ขายแค่ห้องพัก แต่ขาย “ประสบการณ์แบบไทย” การสร้างมูลค่าเพิ่มจากเอกลักษณ์และคุณภาพ คือกุญแจที่จะทำให้สินค้าไทยมีที่ยืนชัดเจนขึ้น

2. ดึงเทคโนโลยีมาเชื่อมกับการค้าจากการใช้ดิจิทัลพลิกธุรกิจโรงแรม เธออาจนำแนวทางนี้มาใช้กับการค้าของไทย เช่น สร้างระบบข้อมูลการค้าแบบเรียลไทม์ให้ผู้ประกอบการเข้าถึง หรือผลักดันแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วย SME ขายสินค้าข้ามพรมแดนได้สะดวกขึ้น นี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ “การค้าดิจิทัล” ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นโครงสร้างที่จับต้องได้

3. ใช้เครือข่ายโลก เสริมอำนาจการต่อรองของไทยหนึ่งในจุดแข็งของศุภจีคือประสบการณ์จาก IBM และการบริหารเครือโรงแรมที่มีเครือข่ายครอบคลุมหลายประเทศ หากเธอนำเครือข่าย ความสัมพันธ์ และวิธีคิดแบบอินเตอร์มาใช้กับโต๊ะเจรจาการค้า ไม่ว่าจะเป็น FTA หรือมาตรการทางการค้าสมัยใหม่ ก็อาจทำให้ไทยมีน้ำหนักและเสียงที่ดังขึ้นบนเวทีโลก

ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียง “สมการในกระดาษ” ที่ต้องรอดูว่าเธอจะเลือกหยิบมาใช้อย่างไร แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง มันอาจทำให้ภาพของกระทรวงพาณิชย์เปลี่ยนไป จากหน่วยงานที่ผู้คนคุ้นชินว่า “มีหน้าที่คุมราคาของกินของใช้” ไปสู่การเป็น ตัวเร่งสำคัญ ที่ผลักดันให้ไทยกลับมามีที่ยืนอย่างสง่างามในการค้าระดับโลก

เวทีโชว์ของ ปูทางสนามการเมือง ที่อาจ "เพิ่งเริ่ม"

ท้ายที่สุด อาจกล่าวได้ว่า แม้รัฐบาล “อนุทิน 1” จะมีเวลาทำงานเพียง 4 เดือน แต่ก็อาจเพียงพอที่จะเป็น เวทีโชว์ทอง ของหญิงเก่งที่ชื่อว่า “ ศุภจี สุธรรมพันธุ์” หากเธอสามารถสร้างผลงานที่จับต้องได้ แม้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ก็จะเป็น “สัญญาณ” ให้เห็นถึงศักยภาพของผู้นำหญิงรายนี้

การก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของดุสิตธานี พร้อมทิ้งมรดกอย่าง “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ไว้ จึงไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเส้นทางอาชีพ ตรงกันข้าม หากเธอสามารถใช้ช่วงเวลา 4 เดือนนี้ “รีแบรนด์การค้าของไทย” จนสังคมจับต้องได้ ความสำเร็จนี้อาจกลายเป็น บันไดก้าวแรกของเส้นทางการเมือง ที่เปิดกว้างให้หญิงแกร่งคนนี้เดินต่อไปในเวทีไหนก็ได้.

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney



Author

อุมาภรณ์ พิทักษ์

อุมาภรณ์ พิทักษ์
เศรษฐกิจ การเงิน ลงทุน และ อสังหาริมทรัพย์