
นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณปี 68 นี้มีแนวโน้มที่จะทำไม่ได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะรายจ่ายงบลงทุนที่ไม่รวมงบกลาง หรืองบกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้มีการก่อหนี้ไปแล้วประมาณ 78% และเบิกจ่ายจริงได้เพียง 57% ซึ่งห่างจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในเดือน ส.ค.นี้ ที่คาดไว้ว่าควรจะก่อหนี้ได้ประมาณ 92% และเบิกจ่ายจริงได้ 71% ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณทั้งหมด ปี 68 ภาพรวมก่อหนี้ไปแล้ว 83% เบิกจ่ายจริง 78% เมื่อเทียบกับเป้าหมาย ณ สิ้นเดือนส.ค.ที่ มีเป้าหมายก่อหนี้อยู่ที่ 93% และเบิกจ่ายอยู่ที่ 87%
ทั้งนี้หากย้อนไปดูผลการเบิกจ่ายงบประมาณล่าสุด ถึง สิ้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าภาพรวมยังทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายอยู่แต่ก็ไม่เยอะมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงสิ้นปีงบนี้ ก็ยอมรับว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนอาจจะไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 80% แต่คาดว่าอาจจะทำได้ที่ 75% ซึ่งกรมพยายามกำกับและติดตามส่วนราชการอย่างใกล้ชิด
สำหรับสาเหตุที่ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 68 โดยเฉพาะงบลงทุนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ล่าช้า โดยผู้รับจ้างอาจจะยังไม่พร้อม อีกทั้งยังมีการอุทธรณ์ร้องเรียนผลการจัดซื้อจัดจ้างปริมาณค่อนข้างเยอะทำให้กระบวนจัดซื้อจัดจ้างสะดุด แต่กรมฯ ก็พยายามสร้างกระบวนการเร่งพิจารณาผลการอุทธรณ์ให้จบภายในกรอบเวลาไม่เกิน 60 วันตามกฎหมาย เพื่อให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเดินหน้าต่อไปได้ สำหรับการติดตามเบิกจ่ายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจปี 68 ที่อนุมัติก้อนแรกไปแล้ว 115,000 ล้านบาท ขณะนี้เบิกจ่ายไปแล้ว 22,732 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรก เป็นกระทรวงแรงงาน กองทุนหมุนเวียน และรัฐวิสาหกิจ โดยภาพรวมหากหน่วยงานไหนได้รับงบประมาณเป็นก้อนก็จะเบิกจ่ายได้ง่าย แต่ก็พบปัญหาบางหน่วยงานยังไม่กล้าจัดซื้อจัดจ้างเพราะรองบมาก่อน ทั้งที่จริงงบประมาณได้ผ่านการอนุมัติจากสภาเรียบร้อยแล้ว