
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และธนาคารกรุงไทย เพื่อช่วยพัฒนาต่อยอดและถ่ายทอดเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้กับกรมสรรพากร นำมาเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีรวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียภาษี โดยในปี 2570 กรมสรรพากรจะขับเคลื่อนการจัดเก็บภาษีด้วยระบบ AI ภายใต้แผนพัฒนาคือ 1. การพัฒนา Chatbot AI ที่ให้ตอบคำถามผู้เสียภาษีด้วยเสียง 2. การวิเคราะห์การจัดเก็บภาษีด้วย AI 3. การใช้ AI สแกนข้อมูลที่อยู่บนกระดาษให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้การประมวลผลหรือการตรวจสอบภาษีทำได้เร็วขึ้น 4. ระบบ One Portal One Profile ของผู้เสียภาษี
ส่วนการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรในปีงบประมาณ 68 ซึ่งยังเหลืออีก 2 เดือนก่อนสิ้นปีงบประมาณนั้น คาดว่าจะใกล้เคียงตามเป้าหมาย 2.37 ล้านล้านบาท ซึ่งการจัดเก็บภาษีขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจด้วย และมีธุรกิจที่ไปได้ดี เช่น การค้าปลีก-ค้าส่ง และธุรกิจที่ไม่ดี เช่น เช่าซื้อ ขนส่ง รถยนต์ เป็นต้น
นายปิ่นสาย กล่าวต่อว่า ขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อใช้มาตรการภาษีช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมาตรการภาษีดังกล่าวน่าจะไม่ต่างจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ใช้ในปี 2567 คือให้บุคคลธรรมดาสามารถนำรายจ่ายท่องเที่ยวมาหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท ส่วนนิติบุคคลนั้น ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะรวมอยู่ในมาตรการนี้หรือไม่