ไทยยื่นเจรจาใหม่ลดภาษีเหลือศูนย์ สู้ศึกทรัมป์ เอกชนลุ้นหนักปิดดีล18% 

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ไทยยื่นเจรจาใหม่ลดภาษีเหลือศูนย์ สู้ศึกทรัมป์ เอกชนลุ้นหนักปิดดีล18% 

Date Time: 17 ก.ค. 2568 07:36 น.

Summary

เผย ทีมไทยแลนด์ คุย USTR คืน 16 ก.ค.ยื่นข้อเสนอเพิ่มลดภาษีสินค้า 0% ครอบคลุมหลายหมื่นรายการ พร้อมทำมาตรการเยียวยาผลกระทบไว้ 2 ระดับ ที่36% และ 20% ด้าน สรท. มั่นใจมีลุ้นปิดดีลไม่เกิน 18%

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 16 ก.ค.68 ตามเวลาไทย ทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้หารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) อย่างเป็นทางการอีกครั้ง  โดยผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อพิจารณาข้อเสนอเพิ่มเติมของไทย ที่จัดทำใหม่  ซึ่งไทยได้เสนอการลดภาษีนำเข้าสินค้าให้สหรัฐฯเป็น 0% ในสินค้าหลายหมื่นรายการ และยังมีข้อเสนออื่นๆ ที่ยื่นให้สหรัฐฯอีก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้เตรียมมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไว้แล้ว โดยได้แบ่งสมมุติฐานการทำมาตรการเยียวยาไว้ 2 ระดับ คือ ถ้าถูกเก็บภาษี 36% จะมีสินค้าใดได้รับผลกระทบ และผลกระทบลงลึกถึงระดับใดเช่น แรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ และหากถูกเก็บ 20% จะกระทบสินค้ากลุ่มใด ผลกระทบเป็นอย่างไรบ้าง 


ด้านนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากรมว.พาฌิชย์ ให้หารือกับนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะเมื่อวันที่ 15 ก.ค.68 ณ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีบทบาทสำคัญในการการเตรียมข้อมูลเชิงลึกทั้งด้านสถิติการนำเข้า-ส่งออก การวิเคราะห์ผลกระทบ รวมถึงการจัดทำสถานการณ์จำลองเชิงนโยบาย (scenario) สนับสนุนหัวหน้าทีมเจรจา เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์สูงสุดและลดผลกระทบให้น้อยที่สุด


นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีตอบโต้ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ว่า ขณะนี้สหรัฐฯเริ่มใช้มาตรการกับหลายประเทศล่สุด อินโดนีเซียถูกเก็บที่ 19% ขณะเดียวกัน ไทยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะถูกจัดเก็บอัตราใด เนื่องจากต้องรอดูข้อสรุปโครงสร้างภาษีจากสหรัฐฯ โดยทางกรมฯ ได้จัดส่งข้อมูลถิ่นกำเนิดสินค้าไทย หรือ RVC (Regional Value Content) ซึ่งแสดงถึงสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศและภูมิภาคให้ทีมเจรจาแล้ว โดยหวังให้เป็นข้อมูลประกอบเพื่อพิสูจน์ว่า สินค้าส่งออกจากไทยเป็นของแท้ ไม่ใช่การแอบอ้างถิ่นกำเนิด ซึ่งสหรัฐฯ จะใช้เกณฑ์ Substantial Transformation พิจารณา


ส่วนนายธนากร เกษตรสุวรรณ  ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การที่เวียดนามปิดดีลภาษีได้ 20% อินโดนิเซีย 19% ส่วนไทยต้องการปิดดีลให้ได้ 18% ต่างกัน 1-2%  คิดว่า ไทยน่าจะมีโอกาสทำได้ตามเป้าที่วางไว้  และไทยน่าจะไม่เสียเปรียบคู่แข่งสำคัญ  4 ประเทศสำคัญในอาเซียน  คือ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนิเซีย และ เวียดนาม 

  

“ไทยได้ยื่นข้อเสนอ ลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ เป็น 0% ในสัดส่วนสูงถึง 90%  ของสินค้าที่ค้าขายกัน ซึ่งน่าจะมีโอกาสทำให้การจรจาเราสำเร็จเพราะหากเปรียบเทียบกับอินโดนิเซีย เวียดนาม  ที่ได้ดุลการค้าสหรัฐ มากกว่า ไทย 3 เท่า รวมถึงมีการสวมสิทธิ์ถิ่นกำเนิดสินค้ามากกว่าไทย ซึ่งน่าจะเป็นข้อได้เปรียบการเจรจาของไทย” 


สำหรับการเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบ ที่รัฐบาลเตรียมซอฟต์โลนไว้ 200,000 ล้านบาทนั้น ผู้ประกอบการ ภาคผลิต ภาคส่งออก ไม่ต้องการการเยียวยาเป็นตัวเงิน แต่อยากได้เป็นมาตรการมากกว่า เช่น การไม่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท  การควบคุมอัตราดอกเบี้ย ส่วนเงินเยียวยา หรือซอฟต์โลนควรช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง จากการเปิดตลาดสินค้าให้สหรัฐฯดีกว่า

ด้านนายนาวา จันทนสุรคน รองประธาน ส.อ.ท. ระบุว่า ภาคเอกชนกังวลว่าไทยอาจถูกกดดันให้ลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เหลือ 0% เช่นเดียวกับเวียดนาม และอินโดนีเซียพร้อมเสนอให้รัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่น การรับซื้อสินค้าเพื่อระบายสต๊อก ช่วยชดเชยแรงงาน การพักหนี้สำหรับเอสเอ็มอี รวมถึงการอุดหนุนต้นทุนวัตถุดิบกรณีนำเข้าจากแหล่งใหม่ นอกจากนี้ ยังแนะให้เร่งรัดเบิกจ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 115,000 ล้านบาท และติดตามการดำเนินโครงการอย่างโปร่งใส




Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ