กำแพงภาษีสหรัฐฯ 36% ทำเอกชนไทยแข่งขันยาก ดร.กอบศักดิ์ แนะ 3 แนวทางเจรจา ประคองเศรษฐกิจไทย

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กำแพงภาษีสหรัฐฯ 36% ทำเอกชนไทยแข่งขันยาก ดร.กอบศักดิ์ แนะ 3 แนวทางเจรจา ประคองเศรษฐกิจไทย

Date Time: 8 ก.ค. 2568 17:37 น.

Video

เมื่อเด็ก ป.6 (11 ขวบ) สร้างรายได้ "หลักแสน" แซงหน้าคนทำงาน! l Money Secret EP.12

Summary

กอบศักดิ์ ประธาน FETCO ประเมินไทยมี 3 ทางเลือก รับมือภาษีต่างตอบแทน หรือ reciprocal tariff จากสหรัฐ​ “ยอมรับสภาพ 36% - เจรจาให้ได้อัตราภาษีที่ 25%-ยอมสุดๆ เพื่อให้ได้อัตราภาษี 20% เท่าเวียดนาม” ฟากตลาดหุ้น ร่วงไม่มาก เหตุนักลงทุนรับข่าวไปแล้ว

Latest


ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO  ประเมินว่า จากกรณีที่สหรัฐฯ มีการขึ้นกำแพงภาษีต่างตอบแทนจากประเทศไทยเป็น 36% นั้น มองว่าระดับดังกล่าวอาจจะทำให้ภาคเอกชนแข่งขันได้ยากมากเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนามที่กำแพงภาษี 20% และมาเลเซียที่ 25% และจะดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้ยาก

“ไทยมี 3 ทางเลือกเวลานี้ คือ ยอมรับสภาพ 36% กลับไปเจรจาที่ 25% และยอมแบบสุด ๆ เช่นเดียวกับเวียดนามที่ 20% เราต้องหาจุดที่เหมาะสมเพื่อให้เราสามารถแข่งขันได้”

ทั้งนี้ในมุมมองของ FETCO ระดับภาษีที่ 36% นั้นเป็นจุดที่เอกชนจะแข่งขันลำบากมาก เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีต้นทุนห่างกันเกินไป ซึ่งจะส่งผลสำคัญในด้านการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศด้วย ถ้ากลับไปเจรจาให้การจัดเก็บภาษีอยู่ในระดับ 25% อาจเป็นระดับที่เหมาะสม โดยจากการพูดคุยกับภาคเอกชน พบว่า ส่วนต่างของภาษีที่ไม่มากนักนั้นจะเป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจรับได้ ส่วนการจะยอมทั้งหมดที่ 20% ต้องดูว่าเรารับจุดนั้นได้หรือไม่

อีกทั้งยังมองว่า การเดินหน้านโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ในรอบนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยฝั่งตลาดหุ้นรับข่าวไปแล้ว ดัชนีไม่ปรับตัวลดลงมากนัก ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับสหรัฐฯ ในด้านการค้า 

เศรษฐกิจไทยน่าห่วง สัญญาณชีพแผ่ว แนะ 3 ทางรับมือ

สำหรับความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าห่วง นักลงทุนต่างชาติกำลังขายทั้งตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตร โดยเทขายหุ้นไปแล้วเกือบ 8 หมื่นล้านบาท และตลาดพันธบัตรก็มีขายสุทธิเช่นกัน สะท้อนว่าเรากำลังมีปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง

แม้ตัวเลขส่งออกของไทยเดือน พ.ค. เติบโต 18% เกิดจากการเร่งตัวของผู้ประกอบการสหรัฐฯ ที่ต้องการสต็อกสินค้า และมองว่าส่งออกจะดีถึงสิงหาคม ก่อนที่ครึ่งหลังของปีส่งออกจะไม่ดี

ด้านการท่องเที่ยว น่ากังวลใจ ไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาปีที่แล้ว 35.5 ล้านคน ครึ่งปีแรก 16 ล้านคน ลดลง 4% และเดือนมิ.ย. ลดลง 15% ภาคบริโภคในเดือน พ.ค. โต 1.4% เท่านั้น เป็นสัญญาณอันตรายและเศรษฐกิจไทยกำลังอ่อนตัวลง มีเพียงยอดการสนับสนุนการลงทุนจาก BOI เม็ดเงินไตรมาสที่ 1 เพิ่มขึ้น 97% จากปีก่อน ซึ่งช่วยประคองไว้

อย่างไรก็ตาม ในฝั่งของตลาดทุนไทย สิ่งที่ต้องเร่งทำคือมาตรการกระตุ้นตลาดทุน พร้อมกับเสนอว่า หนึ่ง คือการรักษาโมเมนตัมของเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อเนื่อง สอง รักษาความเชื่อมั่นผู้ลงทุน และ สาม ดูแลความสงบทางการเมือง - จัดการความขัดแย้งให้อยู่ในกรอบ


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ