
นายเควิน เคลย์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายแบรนด์ กาแล็กซี รีสอร์ต ประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกาแล็กซี เอนเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป (GEG) หนึ่งในบริษัทรีสอร์ท โรงแรม และเกมชั้นนำของโลก และผู้นำตลาดในมาเก๊า โดย GEG ได้รับการยกย่องในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว กล่าวถึงโอกาสการลงทุนในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ระดับโลก ในประเทศไทยว่า การขยายตัวของชนชั้นกลางในเอเชียคิดเป็น 70% ของการเติบโตทั่วโลก ส่งผลดีต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ซึ่ง กาแล็กซี รีสอร์ต พร้อมสนับสนุนในการวางกลยุทธ์การท่องเที่ยวของไทย จากการพึ่งพารายได้จากปริมาณนักท่องเที่ยว ไปสู่การดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่มีความพร้อมในการจับจ่ายมากขึ้น เพื่อซื้อประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว
โดยการลงทุนพัฒนาเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะสร้างประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวระดับพรีเมียมที่แปลกใหม่ในประเทศไทย ยกระดับการใช้จ่ายต่อหัวจากนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ทที่พักระดับหรูหรา อาหารชั้นเลิศ ความบันเทิงระดับโลก แหล่งช้อปปิ้ง สวนสนุกทันสมัย และพื้นที่เพื่อจัดแสดงงานศิลปะหลากหลาย ทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยสำคัญในการปลดล็อกสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจในระดับที่สูงขึ้น เพราะมีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือน และเพิ่มจำนวนวันท่องเที่ยวมากขึ้น
นายเควินกล่าวว่า กรุงเทพมหานครถือเป็นเมืองที่มีความพร้อมสูงสุด จากทำเลที่เป็นยุทธศาสตร์และมีโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงการคมนาคมที่ดี เมื่อรวมกับเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมที่เป็นรากฐานอันแข็งแกร่ง และทรัพยากรบุคคลด้านการท่องเที่ยวที่มีทักษะ ล้วนสนับสนุนให้ กาแล็กซี รีสอร์ต สนใจลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อสานต่อนโยบายของประเทศไทยให้เกิดขึ้นจริง
“ในช่วงเวลาที่ไทยกำลังศึกษาความเป็นไปได้ ในการพัฒนาเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กาแล็กซี รีสอร์ต เล็งเห็นถึงความสำคัญ ของการกำกับดูแลธุรกิจการพนันในประเทศไทย เพื่อให้ครอบคลุมประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการฟอกเงิน และการลดผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งบริษัทพร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแล และผู้นำชุมชนของไทยอย่างใกล้ชิดในการกำหนดมาตรการเพื่อความยั่งยืน ในเรื่องนี้”
สร้างโอกาสใหม่ให้ประเทศไทย
นายเควินกล่าวต่อว่า มีงานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการเล่นพนันของคนไทยเผยว่า 60% ของผู้ใหญ่ในประเทศไทย มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการพนัน โดยประเทศไทยมีประชากรราว 6 ล้านคน ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อปัญหาติดการพนัน ขณะที่มูลค่าตลาดการพนันในประเทศไทย ถูกประเมินไว้สูงถึง 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปัญหาดังกล่าวได้มีอยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว อีกทั้งยังไม่มีการจัดเก็บภาษี ที่จะช่วยสร้างรายได้กลับสู่เศรษฐกิจในประเทศ หรือแก้ปัญหาผู้ติดการพนันที่ไม่ก่อให้เกิดการสร้างแรงงาน และยังไม่มีระบบในการควบคุมที่จริงจัง
ขณะที่ในสังคมไทย ยังมีหลายกลุ่มที่ต้องการความชัดเจน เรื่องการลงทุนในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะเกรงว่าธุรกิจนี้จะทำให้เกิดปัญหาการพนันเพิ่มขึ้น หากไทยมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมาย มีข้อกำหนดที่เข้มงวดชัดเจน และมีการร่วมมือกับภาครัฐในการวางระบบการควบคุมที่รัดกุม ธุรกิจนี้จะสามารถสร้างรายได้ภาษีได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นภาษีจากคาสิโน ภาษีจากการจ้างงานหลายหมื่นตำแหน่ง รายได้จากการท่องเที่ยว การลงทุน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต
ต้นแบบท่องเที่ยวยั่งยืน
กาแล็กซี รีสอร์ต มาเก๊า ซึ่งดำเนินการโดย กาแล็กซี เอนเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป (GEG) ถือเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ชั้นนำ ที่สามารถขับเคลื่อนการกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจ และสร้างการเติบโตให้ภาคการท่องเที่ยวได้อย่างชัดเจน
ปี 2567 กาแล็กซี เอนเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป มีรายได้รวม 180.34 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 22.7% จากปีก่อน ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นนี้ตอกย้ำความสำเร็จของกาแล็กซี รีสอร์ต มาเก๊า ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างโรงแรมลักชัวรี่ ภัตตาคาร และห้องอาหารระดับเวิลด์คลาส ศูนย์กลาง ช้อปปิ้งระดับหรูเพื่อไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย สถานที่จัดประชุมสัมมนาสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ที่ล้ำสมัย อารีน่าสำหรับกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ และพื้นที่ให้บริการเกมระดับพรีเมียม ซึ่งมีพื้นที่เพียง 5% แต่มันสร้างรายได้ถึง 80% ที่สามารถนำไปสนับสนุนบริการอื่นๆ ทั้งหมด เช่น คอนเสิร์ต ร้านอาหารและกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการพนัน
ทั้งนี้ โมเดลความสำเร็จของ กาแล็กซี รีสอร์ต มาเก๊า ซึ่งเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกบนพื้นที่กว่า 2 ล้านตารางเมตร คือต้นแบบที่ภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยมุ่งให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการอย่างรับผิดชอบ การสร้างความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อสร้างผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
เปิดโมเดลการบริหาร
เควิน เคลย์ตัน กล่าวต่อว่า การลงทุนในธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ ที่สร้างรายได้มหาศาลให้ประเทศ ขณะเดียวกันต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่สังคม และการยอมรับจากประชาชนซึ่งสำคัญที่สุด โดยโมเดลของธุรกิจนี้ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเข้าไปเล่นเกมได้อย่างเสรี แต่ต้องมีกฎหมายควบคุม และข้อกำหนดที่ชัดเจน เช่น ผู้เล่นต้องมีอายุเกิน 21 ปี ไม่เป็นผู้ที่มีปัญหาทางการเงิน และไม่เคยมีพฤติกรรมเสพติดการพนัน เป็นต้น
“สิ่งที่หลายคนยังไม่ทราบคือ การดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ ให้ความสำคัญกับการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Gaming) เราไม่ได้ลงทุนแค่สร้างอาคารหรือความบันเทิงเท่านั้น แต่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในระบบการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการเล่น (Gaming) ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการประเมินและตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง และการลงทุนในการป้องกันการฟอกเงิน”
“ธุรกิจของเราใกล้เคียงกับธุรกิจการเงิน ที่ต้องมีการรายงานการตรวจสอบและควบคุมรายการหรือธุรกรรมหรือบุคคลที่เข้าข่ายหรือต้องสงสัย ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ต้องปฏิบัติ และเรายังเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จึงต้องมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมีความโปร่งใสที่ตรวจสอบได้ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าการจะลงทุนด้วยเงินทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในไทย เราต้องเคารพกฎหมาย และความต้องการของประชาชน เพื่อผลักดันให้โครงการนี้เป็นโอกาสผลักดันให้ไทยก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างภาคภูมิใจ”
นายเควิน กล่าวย้ำว่า ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังมองหาโมเดลเศรษฐกิจใหม่เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเป็นโอกาสที่ดีในการผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ เมื่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันให้เกิดระบบการทำงานที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม โปร่งใส และตรวจสอบได้