
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือดีอี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมว่า ที่ประชุมเห็นชอบ 3 มาตรการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ประกอบด้วย 1. มาตรการสร้างรายได้ โดยให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พัฒนาแพลตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซ และไลฟ์-คอมเมิร์ซ (e-Commerce และ Live Commerce) เพื่อให้ผู้ผลิตสินค้าเอสเอ็มอีนำสินค้ามาขาย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนเพราะการขายบนแพลตฟอร์มอื่นจะถูกเก็บค่าธรรมเนียม 30% เช่นอาจร่วมมือกับ Thailand Post Mart โดยอนุมัติงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาขีดความสามารถของระบบนิเวศ e-Commerce
2. สร้างโอกาส โดยให้ สสว. เร่งส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้เอสเอ็มอีทราบในวงกว้าง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (THAI SME-GP) ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 มีกว่า 750,000 ล้านบาท โดยให้สิทธิพิเศษภาครัฐจัดซื้อจัดจ้างจากเอสเอ็มอีก่อนและให้แต้มต่อราคา 10% สำหรับเอสเอ็มอี และเพิ่มสูงสุด 15% สำหรับสินค้า Made in Thailand หลังจากปีงบประมาณ 2567 มียอดจัดซื้อจัดจ้างสูงถึง 726,211 ล้านบาท
3. เสริมแกร่ง ด้วยวงเงิน 2,700 ล้านบาท อัดฉีดการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 1% ระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 1 ปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 5 ปี คาดว่าจะสามารถปล่อยกู้ได้ในเดือนส.ค. 2568 แบ่งเป็น 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ Transformation Fund วงเงิน 1,000 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่ต้องการปรับสู่ดิจิทัล เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น, กลุ่ม Enhancement Fund วงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่มที่มีศักยภาพ เช่น ธุรกิจสีเขียว การธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ วงเงิน 1,000 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง วงเงิน 700 ล้านบาท