“จีเอ็มเอ็มมิวสิค” โตทะยาน ขับเคลื่อน 4 กลุ่มธุรกิจลุยพุ่งสวนเศรษฐกิจ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“จีเอ็มเอ็มมิวสิค” โตทะยาน ขับเคลื่อน 4 กลุ่มธุรกิจลุยพุ่งสวนเศรษฐกิจ

Date Time: 27 มิ.ย. 2568 07:30 น.

Summary

จีเอ็มเอ็ม มิวสิค ผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2568 แข็งแกร่งเกินคาด โตสวนทางกับสภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศ เติบโตด้วยสภาวะตลาดที่มีศักยภาพ รวมถึงการวางแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าแม้สภาพเศรษฐกิจไทยจะเกิดความผันผวนอย่างหนัก หลายธุรกิจในอุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์ถูกดิสรัปและเกิดภาวะชะลอตัวทางรายได้ แต่ธุรกิจเพลงยังคงเป็นเซ็กเตอร์ในอุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์ที่แข็งแกร่ง เติบโตผ่านพ้นกระแสดิสรัปชันด้วยความมั่นคง และปรับตัวเข้าสู่การเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2567 GMM Music สร้างปรากฏการณ์ด้วยการสร้างรายได้รวมกว่า 4,056 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2565-2567) เฉลี่ยอยู่ที่ 15% ต่อปี และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 8.03% เมื่อเทียบกับงวดสิ้นปี 2566


สำหรับไตรมาสแรกของปี 2568 บริษัทฯ ยังคงรักษาผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยรายได้รวม 1,073.18 ล้านบาท เติบโตเกือบ 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 155.39 ล้านบาท เติบโตขึ้น 46.84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจ 4 เสาหลักในไตรมาส 1 ปี 68 ดังนี้ 1.) กลุ่มธุรกิจดิจิทัลมิวสิค มีรายได้ 245.30 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากธุรกิจ Digital Subscription จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ, 2.) กลุ่มธุรกิจบริหารลิขสิทธิ์ ยังคงเติบโตท้าทายสภาวะตลาดในปัจจุบันด้วยรายได้กว่า 94.42 ล้านบาท, 3.) กลุ่มธุรกิจบริหารศิลปิน ยังคงรักษาเสถียรภาพได้ดี และ 4.) กลุ่มธุรกิจโชว์บิซ (คอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรี) ทำรายได้สูงสุดที่ 358.68 ล้านบาท สร้างปรากฏการณ์เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 107.45% และจำนวนคนดูกว่า 220,000 คน ที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหรือกว่า 100% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า


สำหรับกลยุทธ์ในช่วงครึ่งหลังปี 68 GMM Music คาดว่าภาวะการแข่งขันในธุรกิจโชว์บิซจะรุนแรงยิ่งขึ้น โดยประเทศไทยจะมีการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินไทยและต่างประเทศมากกว่า 1,000 งานในปีนี้ ซึ่งในส่วนของบริษัทฯ นอกจากจะมีแผนจัดมิวสิคเฟสติวัลในหลากหลายพื้นที่และมีการจัดคอนเสิร์ตของศิลปินในสังกัดแล้ว ยังมีคอนเสิร์ตและแฟนมีทของศิลปินเกาหลี และคอนเสิร์ตจากศิลปินนานาชาติอีกมากมาย


ทั้งนี้ ภาวะตลาดโชว์บิซมีการแข่งขันที่สูงขึ้นและมีผู้เล่นใหม่ ๆ รวมตัวกันเข้ามา เป็นสิ่งที่ดีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม และบริษัทได้เตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันอยู่ตลอดด้วยการวางกลยุทธ์เชิงรุกทั้งระยะสั้น กลาง และยาวอย่างมีแบบแผน ความได้เปรียบด้านโครงสร้างบริษัท ประสบการณ์ของทีมงาน และองค์ความรู้ในธุรกิจที่มีมาอย่างยาวนาน รวมถึงการมี Big Data ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเพลงทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลากหลายมิติมาช่วยประกอบการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ


ในส่วนของธุรกิจดิจิทัลมิวสิค จะมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในเชิงลึกเพื่อสรรหาแนวทางและโมเดลธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้เติบโตมากขึ้น ตลอดจนการใช้ยุทธศาสตร์เฉพาะทางในการบริหาร Back Catalog และ New Release อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งน่าจะสามารถสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง


สำหรับการผลิตคอนเทนต์ โดยปกติบริษัทจะมีการวางกลยุทธ์ 3 ปี ล่วงหน้าโดยเราจะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับ 14 ค่ายเพลงในสังกัด พร้อมเดินหน้าแผนจัดตั้งค่ายเพลงอินเตอร์จำนวน 2 ค่ายร่วมกับ Tencent Music Entertainment (TME) และ Warner Music Asia ซึ่งพร้อมจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ โดยวางเป้าหมายขยายสเกลของพอร์ตโฟลิโอเพลงโดยรวมของบริษัทด้วยผลงานเพลงใหม่ ๆ ทั้งเชิงคุณภาพ และปริมาณ ไม่น้อยกว่า 500 เพลง และ 3,000 Playlists ภายในปี 68 นี้


"เราเชื่อมั่นว่า GMM Music จะยังสามารถเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจได้ตลอดทั้งปี 68 นี้ ด้วยความมุ่งมั่นของเราในการสร้างความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมเพลงไทย ซึ่งไม่ใช่แค่การเติบโตทางธุรกิจ แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศทางดนตรีที่ยั่งยืนและครอบคลุม ตั้งแต่การพัฒนาศิลปินรุ่นใหม่ การสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลาย การใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค และการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเพลงไทยสู่ New Music Economy ด้วยการเป็น Music Pure Play ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ"


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ